· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์จากสัญญาณว่าเฟดอาจชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่หุ้นเอเชียปรับตัวลดลงหลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนประกาศออกมาค่อนข้างอ่อนแอ จึงยิ่งตอกย้ำถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
ทั้งนี้ ราคาทองคำมักปรับตัวสูงขึ้นหากมีแนวโน้มเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่น้อยลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมักจะทำให้ปริมาณอุปสงค์ในค่าเงินดอลลาร์อ่อนแอ และส่งผลให้ราคาทองคำถูกลงสำหรับประเทศที่ไม่ใช้สกุลเงินดอลลาร์
· ด้านราคาทองคำระหว่างวันปรับตัวสูงขึ้น 0.4% บริเวณ 1,291.97 เหรียญ ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 0.2% บริเวณ 1,292.10 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ระบุว่า ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากทั้งความอ่อนแอของค่าเงินดอลลาร์และผลประกอบการของหุ้นเอเชียในวันนี้ ขณะที่ประเมินแนวต้านสำคัญของทองคำไว้ที่ 1,290 และ 1,300 เหรียญ ซึ่งราคาทองคำยังต้องการแรงเข้าซื้อมากกว่านี้อีก ถึงจะสามารถผ่านระดับดังกล่าวไปได้
· ถ้อยแถลงของประธานเฟดเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ย้ำถึงความสามารถในการ “อดทน” ต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด จึงทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดอาจชะลอหรือลดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยลงภายในปีนี้ จากเดิมที่เฟดคาดการณ์ไว้ที่ 2 ครั้ง
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง หลังยอดส่งออกจีนในเดือน ธ.ค. ชะลอตัวสู่ระดับ 4.4% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราที่ชะลอตัวลงมาที่สุดในรอบ 2 ปี
· ราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นมากกว่า 11% นับตั้งแต่ระดับต่ำของเดือน ส.ค. ที่ 1,159.96 เหรียญ โดยขึ้นมาทำระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นและการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์
· นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่า ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าและความอ่อนแอของตลาดหุ้นเช่นกัน พร้อมมองว่าปริมาณการเข้าซื้อทองคำในฐานะSafe-haven ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการลงมตินโยบาย Brexit ในวันที่ 15 ม.ค. นี้ รวมถึงภาวะ Shutdown ของสหรัฐฯ ที่ยังคงยืดเยื้อและไร้วี่แววว่าจะสิ้นสุดลงในเร็วๆนี้
โดยภาวะ Shutdown ของสหรัฐฯกำลังเข้าสู่วันที่ 24 ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยังคงยืนยันที่จะเรียกร้องงบประมาณก่อสร้างกำแพงชายแดนเป็นเงินทั้งหมด 5.7 พันล้านเหรียญ
· นักวิเคราะห์จากทางเทคนิคจาก Reuters คาดการณ์ว่า ราคาทองคำวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,279 – 1,299 เหรียญ หากหลุดไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ก็จะเป็นตัวกำหนดทิศทางต่อไปในภาพระยะสั้นๆ
· ราคาทองคำเข้าสู่ภาวะสะสมพลังหลังจากที่ปรับขึ้นได้เกือบ 3 เหรียญในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยภาพรวมราคาทองคำสัปดาห์ที่แล้วแกว่งตัวในกรอบ 17 เหรียญ นับจากHigh-Low และก็สามารถปิดได้เหนือแนวรับ โดยราคาทองคำดูจะเคลื่อนไหวผันผวนตามค่าเงินดอลลาร์ตามปัจจัยพื้นฐานของสหรัฐฯ แต่ภาพรวมระยะยาวของทองคำดูจะยังเป็นขาขึ้นหลังจากที่ยืนเหนือแนวรับได้ โดยปัจจัยพื้นฐานสำคัญของปีนี้ ยังเป็นเรื่อง “การลงมติโหวต Brexit” ที่อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำต่อไปได้
· ด้านราคาพลาเดียมปรับลดลง 0.8% ที่บริเวณ 1,306.99 เหรียญ หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,342.43 เหรียญในสัปดาห์ก่อน