หลังจากการลงมติข้อตกลง Brexit ในรัฐสภาอังกฤษเมื่อคืนที่ผ่านมา จบลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างราบคาบของนายกรัฐมนตรีเทเรซ่า เมย์ พรรคฝ่ายค้านในรัฐสภานำโดยนายเจเรมี โคบลิน ก็ไม่รอช้า เดินหน้าผลักดันการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลโดยทันที
การลงมติไม่ไว้วางใจคืออะไร? และจะเกิดขึ้นเมื่อใด?
พรรคเพื่อแรงงานในรัฐสภาอังกฤษ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก พร้อมด้วยบรรดาพรรครายย่อย ได้ยื่นเรื่องแสดงความไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาลชุดปัจจุบัน
โดยการลงมติจะเริ่มต้นขึ้นภายในคืนนี้ ซึ่งทางหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านจะมีการกล่าวโต้วาทีกับนายกรัฐมนตรี โดยอาจเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเวลา 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ไปจนถึงช่วง 02.00 น. ก็จะเริ่มต้นการลงมติจริง ส่วนผลการลงมติน่าจะออกมาอย่างเร็วที่สุดหลังจากนั้นประมาณ 15 นาที
ทั้งนี้ ในรัฐสภาอังกฤษมีที่นั่ง ส.ส. อยู่ทั้งหมด 650 ที่นั่ง ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันจำเป็นต้องได้เสียงสนับสนุนอย่างน้อย 318 เสียงถึงจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ เนื่องจากจะมีสมาชิกของพรรค Sinn Fein ของไอร์แลนด์จำนวน 7 คน ที่จะไม่มีสิทธ์ร่วมโหวต รวมไปถึงโฆษกของรัฐบาลจำนวน 4 คน และ ส.ส. อีก 4 คน ที่มีหน้าที่ช่วยนับผลการลงมติ จะไม่มีสิทธ์ในการลงมติคืนนี้
สิ่งที่จะตามมากรณีที่รัฐบาลชนะ
รัฐบาลชุดปัจจุบันก็จะสามารถดำเนินงานต่อไปได้ แต่เนื่องจากกฏหมายอังกฤษไม่ได้กำหนดว่าพรรคฝ่ายค้านจะไม่สามารถเรียกให้เกิดการลงมติไม่ไว้วางใจอีกครั้งได้ภายในเวลาเท่าไหร่ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่ฝ่ายค้านจะเร่งให้มีการลงมติไม่ไว้วางใจอีกครั้งภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
สิ่งที่จะตามมากรณีที่รัฐบาลแพ้
นายกรัฐมนตรีจะยังไม่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง แต่จะมีกำหนดเวลาให้ 14 วัน สำหรับการก่อตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่ก็จะต้องได้รับการลงมติเห็นชอบจากสภาอีกครั้ง ก่อนที่จะเริ่มดำเนินงานได้
แต่ถ้าหากไม่สามารถก่อตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้ภายใน 14 วัน รัฐสภาก็จะประกาศให้มีการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง
โอกาสที่นายกฯจะพ่ายแพ้
ณ ปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีได้สูญเสียเสียงสนับสนุนข้างมากไป แต่ทางพรรค DUP ที่เป็นพรรคของตัวแทนจากไอร์แลนด์เหนือ ได้ประกาศจะให้การสนับสนุนรัฐบาลชุดปัจจุบัน ดังนั้นโอกาสพ่ายแพ้ ของนางเมย์จะขึ้นอยู่กับว่าพรรคอนุรักษ์นิยมของเธอเองจะไม่ให้การสนับสนุนมากเท่าใด
ที่มา: Reuters