· ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 141.57 จุด ที่ระดับ 24,207.16 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.2% ที่ระดับ 2,616.1 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.15% ที่ระดับ 7,034.69 จุด
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับขึ้นจากกลุ่มนักลงทุนที่ตอบรับกับแนวโน้มผลประกอบการที่สดใสของภาคธนาคารนำโดย Goldman Sachs และ Bank of America
· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้น ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่กำลังรอคอยผลการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลอังกฤษ โดยดัชนี Stoxx600 ปิด +0.5% ท่ามกลางหุ้นกลุ่มอื่นๆที่เคลื่อนไหวแดนบวก
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับขึ้นในวันนี้ท่ามกลางความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนที่ได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งรายไตรมาสของสหรัฐฯ ขณะที่รัฐบาลอังกฤษคว้าชัยในการลงมติไม่ไว้วางใจในรัฐสภาเมื่อคืนนี้
ดัชนีนิกเกอิเปิด +0.26% ท่ามกลาง Topix ที่เปิด +0.53% ทางด้านค่าเงินเยนอ่อนค่ากลับมาแถว 109 เยน/ดอลลาร์จากระดับ 108 เยน/ดอลลาร์ในช่วต้นสัปดาห์ ขณะที่ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.4%
· นักบริหารเงิน คาดกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ระหว่าง 31.65-31.80 บาท/ดอลลาร์ โดยเมื่อวานนี้เงินบาทค่อนข้างผันผวน แม้จะไร้ปัจจัยชี้นำใหม่ๆ แต่เนื่องจากเงินบาทหลุด 31.85 บาท/ดอลลาร์ลงมาเมื่อวาน ทำให้มีการทำ Stop Loss แถว 31.66 บาท/ดอลลาร์ตามมา โดเงินบาทเมื่อวานถือว่าแข็งค่าที่สุดในรอบ 8 เดือนนับตั้งแต่ พ.ค.61 โดยปัจจัยหลักๆ ยังเคลื่อนไหวไปตามกระแสเงินทุน เพราะระหว่างวันนักลงทุนเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ส่วนประเด็น Brexit ไม่ได้มีผลต่อเงินบาทเท่าไหร่นัก
· ธนาคารโลก คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 62 จะชะลอการเติบโตมาที่ 3.8% จากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ไว้ 3.9% เมื่อ ต.ค.61 ตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยที่ 3.9% ในปี 63 โดยการเติบโตทางเศรษฐกิจยังจะพึ่งพาการบริโภคจากภายในประเทศ เนื่องจากการส่งออกได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ของตลาดโลกที่ลดลง
สำหรับภาคการส่งออกของไทยในปีนี้ ธนาคารโลกคาดว่าจะขยายตัวได้ราว 5% พร้อมมองว่าอุปสรรคสำคัญต่อการค้าไม่ใช่เรื่องของค่าเงินเป็นหลัก แต่อยู่ที่ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าโดยเฉพาะจากประเทศขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐฯ และจีน ขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักก็ยังเป็นส่วนสำคัญด้วยเช่นกัน เพราะหากเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐฯชะลอตัว ก็จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งหากภาวะสงครามการค้ามีความตึงเครียดและยืดเยื้อออกไปก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯชะลอตัวลง
· ประธานกรรมการบริหาร และหุ้นส่วน บริษัท PwC ประเทศไทยเปิดเผยรายงาน Global Economy Watch ฉบับล่าสุดว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 62 น่าจะเติบโตประมาณ 3.7-3.9% จากปีที่ผ่านมา โดยยังคงได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายและการบริโภคภายในประเทศ ขณะที่การท่องเที่ยวน่าจะเริ่มฟื้นตัวจากปีนี้
· กระทรวงการคลังแห่งประเทศไทยจะมีการการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 61 อีกครั้ง และคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 62 ในวันที่ 28 ม.ค.นี้