· นักวิเคราะห์จาก Daily FX ประเมินว่า ค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์เมื่อวานนี้ ไม่สามารถปรับขึ้นเหนือแนวต้านบริเวณ $1.1456 – 81 ซึ่งเส้นเทรนขาลงที่ดำเนินมาตั้งแต่เดือน ต.ค. ได้ จึงมีการปรับย่อตัวกลับลงมา
สำหรับการลงทุนวันนี้ ตลาดจะจับตาไปที่ระดับ $1.1328 หากหลุดลงมา ค่าเงินก็อาจเผชิญแรงเทขาย และกลับสู่ทิศทางขาลงในระยะยาวอีกครั้ง โดยมีแนวรับถัดไปที่ระดับ$1.1216 ตามมาด้วย $1.1110-32
· นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่า ความวุ่นวายในตลาดการเงินและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะบังคับให้สหรัฐฯและจีนสามารถไปสู่ข้อตกลงการค้าได้
สัญญาณจากการเจรจาการค้าที่ผ่านมาในประเทศจีนมีแนวโน้มที่ดีและได้เพิ่มมุมมองในแง่ดีของตลาดแม้ว่าจะไม่มีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมก็ตาม
อย่างไรก็ดี ตลาดอาจเผชิญแรงกดดันครั้งใหม่ หากสหรัฐฯและจีนไม่สามารถเจรจาทางการค้าร่วมกันได้
· นายคิม ยอง ชอล หัวหน้าทีมเจรจาจากเกาหลีเหนือ ได้เดินทางมาถึงกรุงวอชิงตันของสหรัฐฯ และถูกคาดการณ์ว่าจะร่วมเจรจากับนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ ภายในคืนนี้ รวมถึงมีโอกาสที่จะได้พบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยตรง เพื่อเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ รวมถึงการจัดวันและสถานที่สำหรับการประชุมร่วมกันระหว่างนายทรัมป์และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เป็นรอบที่ 2
การเดินทางเยือนสหรัฐฯครั้งนี้ ต่างฝ่ายต่างคาดหวังว่าจะมีสัญญาณความคืบหน้าเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ หลังจากการดำเนินดังกล่าวไร้ความคืบหน้ามาติดต่อเป็นระยะเวลานาน รวมถึงคาดหวังว่าจะมีประกาศเกี่ยวกับการพบกับระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศเป็นรอบที่ 2
· นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าบีโอเจ กล่าวรายงานต่อคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจในรัฐสภาญี่ปุ่น โดยแสดงความคาดหวังว่า สหรัฐฯและจีนจะสามารถยุติข้อพิพาททางการค้าร่วมกันได้ภายในปีนี้
· ผู้นำด้านการเงินจากเยอรมนีและจีน ร่วมลงนามในข้อตกลงที่จะขยายความร่วมมือทางการเงินระหว่างทั้ง 2 ประเทศมากขึ้น รวมถึงจะเปิดกว้างเศรษฐกิจเพื่อต้อนรับการลงทุนจากแต่ละฝ่ายมากขึ้น
ทั้งนี้ แม้การค้าขายระหว่างทั้ง 2 ประเทศจะค่อนข้างซบเซาลงในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลในข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน แต่ทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกควรดำเนินไปด้วยความร่วมมือกันระหว่างทุกๆประเทศ
ความร่วมมือทางการเงิน
ทั้งสองฝ่ายต่างรับรู้ถึงศักยภาพทางการเงินของแต่ละฝ่ายเป็นอย่างดี จึงจับมือกันเพื่อจะขยายสถาบันการเงินออกสู่ประเทศที่ 3 มากขึ้น
โดยจีนจะเปิดรับบริษัทประกันสัญชาติเยอรมนีให้สามารถดำเนินธุรกิจภายในแผ่นดินจีนได้ ขณะที่บริษัทประกันจีนเองก็สามารถดำเนินธุรกิจในเยอรมนีมากขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ จีนจะเปิดรับธนาคารเยอรมนีที่ต้องการเป็นโบรกเกอร์ทางการภายใต้ธนาคารกลางแห่งประเทศจีน รวมถึงทั้ง 2 ประเทศจะร่วมมือนำแผน Belt and Road initiativeของจีน มาผนวกเข้ากับแผนเชื่อมต่อเศรษฐกิจธุรกิจยุโรป-เอเชีย ผ่านทางลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยแผนป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯในวันนี้ โดยในแผนดังกล่าวได้ระบุให้เกาหลีเหนือเป็น “ภัยคุกคามพิเศษ” หลังจากเมื่อ 7 เดือนก่อนหน้านี้ นายทรัมป์เคยกล่าวภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือได้หมดสิ้นไปแล้ว
แผนป้องกันดังกล่าว ได้อ้างถึงความเสี่ยงในการถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธจากอิหร่าน รัสเซีย และจีน พร้อมเรียกร้องให้พัฒนาระบบตรวจสอบขีปนาวุธจากอวกาศ เพื่อให้สหรัฐฯสามารถตรวจสอบขีปนาวุธที่เป็นภัยคุกคามและปกป้องสหรัฐฯได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ แม้นายทรัมป์จะไม่ได้กล่าวถึงเกาหลีเหนือด้วยตัวเอง แต่นายแพทริก ชานาฮาน ผู้รักษาการแทนตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ได้ระบุว่า ขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ เป็นภัยคุกคามที่ “น่าเป็นห่วงที่สุด” และถึงแม้จะมีสัญญาณว่าสหรัฐฯอาจสามารถสร้างสันติภาพกับเกาหลีเหนือได้ แต่สหรัฐฯก็จะจับตาภัยคุกคามดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป
· ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของญี่ปุ่นในเดือน ธ.ค. ชะลอตัวลงดด้วยอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบ 7 เดือน ท่ามกลางการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่อ่อนแอ กดดันไม่ให้ผู้ประกอบการให้ประเทศสามารถปรับขึ้นราคาได้ จึงเป็นสัญญาณว่าอัตราเงินเฟ้อในประเทศจะยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายของบีโอเจที่ 2% ต่อไป
ข้อมูลดังกล่าวถูกรายงานก่อนหน้าการประชุมของบีโอเจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ว่าจะมีมติปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเงินเฟ้อ พร้อมกล่าวเตือนถึงความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก
โดยดัชนี Core CPI ในเดือน ธ.ค. ที่รวมสินค้าเกี่ยวกับน้ำมันแต่ไม่รวมอาหาร ขยายตัวได้ 0.7% จากปีก่อน ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัวได้ 0.9% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกาณณ์เอาไว้ที่ 0.8%
นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัย Dai-ichi Life คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานในญี่ปุ่นอาจหยุดการขยายตัวภายในเดือน เม.ย. เนื่องจากผลกระทบจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับภาวะที่พื้นฐานของอัตราเงินเฟ้อในประเทศค่อนข้างอ่อนแออยู่แล้ว
· รัฐบาลสหรัฐฯมีแนวโน้มจะประกาศขยายระยะเวลาละเว้นให้บางประเทศสามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านต่อได้ แต่อาจปรับลดจำนวนของประเทศที่จะได้รับการละเว้นลง เพื่อหักลบกับปริมาณนำเข้าของผู้นำรายใหญ่ 2 อันดับแรก คือจีนและอินเดีย และเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นมากเกินไป