โดยราคาทองคำปรับสูงขึ้นเล็กน้อยประมาณ 0.1% ที่บริเวณ 1,282.80 เหรียญ ขณะที่ราคาสัญญาทองคำ COMEX ทรงตัวบริเวณ 1,282.10 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก Phillip Futures ระบุว่า แนวโน้มการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด เป็นปัจจัยที่ยังคงกดดันค่าเงินดอลลาร์ ราคาทองคำจึงได้ผลประโยชน์จากแนวโน้มดังกล่าว แต่ในขณะเดียวกัน ปริมาณความต้องการสินทรัพย์ก็เริ่มกลับเข้ามาในตลาด เห็นได้จากการที่หุ้นปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ จึงกดดันไม่ให้ราคาทองคำสามารถปรับสูงขึ้นได้
· เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก่อนที่เฟดจะมีการประชุมนโยบาย ซึ่งตลาดค่อนข้างเชื่อมั่นแล้วว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเห็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ความผันผวนของตลาดหุ้นช่วงไตรมาสที่ผ่านมา และภาวะ Shutdown ของสหรัฐฯที่เริ่มส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
· นักวิเคราะห์ระบุว่า เริ่มสัญญาณของการฟื้นตัวในตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมถึงค่าเงินดอลลาร์ก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นในบางจังหวะ จึงกดดันการเคลื่อนไหวของทองคำที่ชนกับแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,300 เหรียญ
· ราคาทองคำปรับขึ้นได้มากกว่า 10% นับตั้งแต่ทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง เมื่อช่วงกลางเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางแรงเทขายอย่างหนักในตลาดหุ้นและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า
· ตลาดหุ้นเอเชียค่อนข้างทรงตัวในวันนี้ หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตลาดรายสัปดาห์ที่ผ่านมาในแดนบวก ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ยังมองราคาทองคำในระยะยาวเป็นทิศทางขาขึ้น และยังมีปัจจัยหนุนราคาอย่างการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความไม่แน่นอนทางการเมือง
· เศรษฐกิจจีนชะลอการเติบโตลงในไตรมาสที่ผ่านมา จึงยิ่งตอกย้ำให้รัฐบาลจีนพิจาณาออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น เพื่อรับมือการการกดดันทางการค้าจากสหรัฐฯ
· นอกจากนี้ บรรดานักลงทุนจะจับตาดูการแถลง “Plan B” สำหรับการดำเนินนโยบาย Brexit จากนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ภายในคืนนี้ หลังจากที่ข้อตกลงBrexit ฉบับก่อนหน้าของเธอถูกรัฐสภาปฏิเสธไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
· นักวิเคราะห์จาก MKS PAMP Group ระบุว่า ปริมาณการซื้อขายสัญญาทองคำค่อนข้างทรงตัว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังจับตาดูปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจต่างๆ เพื่อประเมินผลกระทบในระยะยาว
· นักวิเคราะห์จาก Reuters คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะหลุดแนวรับแรกที่ระดับ 1,279 เหรียญ และจะมีแนวต้านถัดไประดับ 1,268 เหรียญ
· กองทุน SPDR เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำการเข้าซื้อทองคำ 12.05 ตัน หรือ +1.5% ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 809.76 ตัน จึงยิ่งตอกย้ำถึงปริมาณความต้องการ Safe-haven ที่แข็งแกร่งในตลาด
.· GOLD TECHNICAL ANALYSIS
ราคาทองคำมีการย่อตัวลงทดสอบแนวรับของเส้นเทรนขาขึ้นที่ต่อเนื่องมาจากช่วงกลางเดือน พ.ย. จึงส่งสัญญาณว่าราคาอาจมีการเคลื่อนไหวในลักษณะขาลงต่อในระยะสั้นๆ โดยมองแนวรับไว้ที่ 1,278.15 เหรียญ หากหลุดระดับลงไปอาจย่อตัวลงถึงบริเวณ 1,260.80 – 1,263.76 เหรียญ ขณะที่แนวต้านระยะสั้นจะอยู่ที่ระดับ 1,298.54 เหรียญ ที่เป้นระดับสูงสุดของวันที่ 4 ม.ค.
· สำหรับราคาพลาเดียมที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ระดับ 1,434.50 เหรียญ วันนี้ปรับขึ้น 1.2% ที่บริเวณ 1,394 เหรียญ
โดยราคาพลาเดียมในเดือนนี้ ปรับขึ้นได้ถึง 10.5% ท่ามกลางภาวะอุปทานที่ตึงตัว และอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง
ส่วนราคาซิลเวอร์ทรงตัวบริเวณ 15.32 เหรียญ และราคาแพลทตินั่ทปรับลดลง 1.9% บริเวณ 800 เหรียญ