ทั้งนี้ ราคาทองคำทรงตัวบริเวณ 1,284.74 เหรียญ ขณะที่ราคาสัญญาทองคำ COMEX ปรับสูงขึ้น 0.1% บริเวณ 1,284.20 เหรียญ
โดยราคาทองคำปรับสูงขึ้นเมื่อวานนี้ 0.4% ท่ามกลางการปรับร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่หุ้นเอเชียในวันนี้ปรับร่วงลงอีก
· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ระบุว่า ปัจจัยทางเศรษฐกิจในช่วงนี้เป็นที่ค่อนข้างน่าผิดหวังต่อตลาด ประกอบกับมีสัญญาณด้านลบจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน จึงยิ่งกระตุ้นให้ปริมาณความต้องสินทรัพย์ปลอดภัยมีสูงยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตลาดหุ้นเอเชียมีการเคลื่อนไหวไม่มากนักในวันนี้ จึงกดดันการปรับสูงขึ้นของราคาทองคำ
โดยทองคำมักถูกใช้เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ได้ประเมินว่า เนื่องจากปัจจัยส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางลบต่อตลาด จึงคาดว่าราคาทองคำยังมีช่องว่างให้ปรับสูงขึ้นอีก และมีแนวโน้มที่จะขึ้นทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1,290 – 1,300 เหรียญ
· การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่ค่อนข้างอ่อนแอจากสหรัฐฯฯและจีน เป็นอีกปัจจัยที่กดดันมุมมองต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเมื่อคืนนี้ ยอดขายที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯประกาศออกมาลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ตัวเลขการส่งออกของญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ ถูกประกาศออกมาอ่อนกว่าที่ตลาดคาด
· รายงานจาก Financial Times ระบุว่า สหรัฐฯมีการปฏิเสธประชุมร่วมกับจีนที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ กับรองรัฐมนตรีจีนจำนวน 2 ราย ขณะที่นายแลรี คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยระบุว่า ไม่มีแผนจัดการเจรจาการค้ากับจีนภายในสัปดาห์นี้แต่อย่างใด
· นักวิเคราะห์ระบุว่า อีกปัจจัยที่หนุนการเข้าซื้อทองคำ คือภาวะ Shutdown ของสหรัฐฯ และแนวโน้มที่เฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้
· นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่า ความไม่มั่นคงทางการเมืองก็ยังคงมีอยู่ในระดับสูง เนื่องจากนโยบาย Brexit ของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังมีท่าทีจะไม่สามารถหาเสียงสนับสนุนได้เพียงพอ
· ปริมาณการถือครองทองคำของกองทุน SPDR ที่ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดของเดือน มิ.ย. ปี 2018 ที่ระดับ 809.76 ตัน เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงปริมาณความต้องการทองคำในตลาดที่แข็งแกร่ง
· นักวิเคราะห์จาก Reuters คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มจะหลุดแนวรับที่ 1,279 เหรียญ และร่วงต่อไปถึงบริเวณ 1,268 เหรียญ เมื่อพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของกราฟและเส้นเทรน
· นักวิเคราะห์จาก DailyFX ระบุว่า ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นและยืนได้เหนือเส้นแนวรับด้านล่างของเส้นเทรนไลน์นับตั้งแต่จุดต่ำสุดของเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่แนวต้านด้านบนอู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 4 ม.ค. บริเวณ 1,298.54 เหรียญ โดยหากวันนี้สามารถปิดได้เหนือระดับดังกล่าว แนะนำให้จับตาบริเวณถัดไปที่ 1,323.6 เหรียญ ในทางกลับกันหากทองคำหลุด 1,281.17 เหรียญ และหากหลุดลงมามีโอกาสเห็นทองคำกลับลงไปแถว 1,263.76 - 1,260.8 เหรียญ
· ราคาทองคำเริ่มมีการฟื้นตัวจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ แต่ยังคงเผชิญแนวต้านซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย (MA) ราย 100 ชั่วโมง ที่เคลื่อนไหวในทิศทางขาลงบริเวณ1,285.66 เหรียญ และทำหน้าที่เสมือนเป็นแนวต้านของราคา
โดยนักวิเคราะห์จาก FXstreet มองว่า ราคาทองคำอาจจะปรับตัวสูงข้ึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย (MA) ราย 100 ชั่วโมงได้ แต่แนวโน้มระยะสั้นจะกลับมาเป็นแนวโน้มขาขึ้นได้ก็ต่อเมื่อราคาสามารถอยู่ยืนอยู่เหนือระดับ 1,300 เหรียญ ขณะที่มุมมองแนวโน้มทิศทางขาลงจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมายังคงมีอยู่
· ขณะที่ราคาพลาเดียมปรับลดลง 0.5% บริเวณ 1,339 เหรียญ หลังจากที่ราคาขึ้นไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 1,434.50 เหรียญ ท่ามกลางภาวะอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง แต่อุปทานตึงตัว
· ส่วนราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.2% บริเวณ 15.36 เหรียญ และราคาแพลมตินั่มปรับสูงขึ้น 0.4% บริเวณ 791 เหรียญ