ทั้งนี้ การประชุมอีซีบีในคืนนี้ ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีมติคงนโยบาย แต่อาจส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน จึงอาจทำให้ตลาดมีมุมมองว่า การดำเนินการปรับนโยบายให้เข้าสู่ภาวะปกติของอีซีบีน่าจะถูกยืดเยื้ออกไปอีก
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีความไม่แน่อนทางการเมืองสหรัฐฯและความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลกส่งผลให้เหล่านักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.3%
นักวิเคราะห์ประจำ Capital Economics เตือนว่า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนดูเหมือนจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปี 2015-2016 แต่ในช่วงนั้นไม่มีแรงกดดันในค่าเงินหยวนเท่ากับช่วงปัจจุบัน รวมทั้งไม่มีสัญญาณของกระเงินทุนไหลออก
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเคลื่อนไหวทรงตัว โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ระดับ 3.1% อย่างไรก็ดี ผลประกอบการที่แข็งแกร่งจาก Texas Instruments ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มบลูชิพ โดยดัชนี Nikkei ลดลง 0.09% ที่ระดับ 20,574.63 จุด
นักลงทุนด้านเทคโนโลยีประจำ Nissay Asset Management ระบุว่า ประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะฉะนั้น เหล่านักลงทุนส่วนใหญ่จึงอยู่ในลักษณะ Wait&See ก่อนหน้าการประกาศผลประกอบการภาคบริษัทต่างๆ
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคาร China Merchants จึงช่วยหนุนหุ้นกลุ่มการเงิน อย่างไรก็ดี ยังคงเป็นการปรับตัวสูงขึ้นอย่างจำกัดจากความไม่แน่นอนทางประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
โดยดัชนี Shanghai Composit เพิ่มขึ้น 0.41% ที่ระดับ 2,591.69 จุด
ด้านนายหวัง ฉีซาน รองประธานาธิบดีจีน ระบุว่า เศรษฐกิจของจีนสามารถรักษาอัตราการเติบโตอย่างยั่งยืนไว้ได้ แม้จะมีความไม่แน่นอนทั่วโลกก็ตาม
· ธนาคารประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยแนวโน้มยังดี แม้มีปัจจัยเสี่ยงจากภายนอก โดยปีนี้เป็นเรื่องของการสานต่อนโยบายอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีปัจจัยใหม่กระตุ้น แต่ยังต้องติดตามการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น หากมีการส่งมอบงานให้รัฐบาลใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น จะช่วยหนุนบรรยากาศที่ดี ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวสอดคล้องกับที่ได้ประเมินไว้ว่าขยายตัว 4.2%