โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้นกว่า 0.4% ขณะที่ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เพิ่มสูงขึ้น
สำหรับปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ที่เหล่านักลงทุนให้ความสนใจ คือ ประเด็นการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
ขณะที่ ทั้งสองประเทศเร่งดำเนินการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงทางการค้าตามที่ตกลงกันไว้ภายใต้โรดแมปและกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน 90 วัน แต่การเจรจาดูเหมือนจะมีสิ่งกีดขวาง หลังจากมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ในสำนักงานตัวแทนการค้าแห่งสหรัฐฯได้ประกาศยกเลิกการประชุมร่วมกันระหว่างตัวแทนสหรัฐฯและเจ้าหน้าที่ระดับรองรัฐมนตรีจากประเทศจีนจำนวน 2 คน ที่จะมีขึ้นภายในสัปดาห์นี้
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น เนื่องจาก
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท ช่วยบรรเทาความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 1% ทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 เดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
นักกลยุทธ์ประจำ JPMorgan Asset Management ระบุว่า นักลงทุนตื่นเต้นกับผลประกอบการของธุรกิจชิปในสหรัฐฯส่งผลให้มั่นใจในการลงทุนมากขึ้น หลังจากเห็นการเคลื่อนไหวของหุ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา
ผลการสำรวจจาก Reuters ของนักเศรษฐศาสตร์หลายร้อยคนจากทั่วโลก ชี้ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกกำลังดำเนินไปสู่การเพิ่มขึ้นของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ เนื่องจากบริษัท ที่เกี่ยวข้องกับชิปของสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่นักลงทุนบางส่วนรอคอยการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าเพื่อหาทิศทางการดำเนินนโยบายทางการเงินในอนาคต
โดยดัชนี Nikkei ปรับตัวสูงขึ้น 1.0% ที่ระดับ 20,773.56 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เหล่าเทรดเดอร์ ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับชิปช่วยหนุนความเชื่อมั่นในหุ้นผู้ผลิตแอปเปิ้ล ขณะที่ Murata Manufacturing เพิ่มขึ้น 6.1% และ Alps Alpineเพิ่มขึ้น 5.2%
· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นภาคธนาคาร หลังธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินให้ภาคธนาคารสำหรับการกู้ยืมเพื่อช่วยกระตุ้นปริมาณการลงทุน อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นของกุ้นถูกจำกัดจากประเด็นความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมทั้งภาพรวมการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.4% ที่ระดับ 2,601.72 จุด
ทั้งนี้ เหล่าวิเคราะห์ ระบุว่า ทางรัฐบาลจีนจะอนุญาตให้บริษัทประกันเข้ามาลงทุนในอัตราพันธบัตรระดับ 2 และตราสารหนี้ (perpetual bond)ได้ รวมทั้งเตรียมการให้ธนาคารกลางจีนสามารถเข้ามากระตุ้นสภาพคล่องทางเศรษฐกิจได้ในภายหลังอีกด้วย