โดยในช่วงสายวันนี้ ราคาทองคำทรงตัวที่ 1,302.58 เหรียญ ขณะที่ราคาสัญญาทองคำพุ่งขึ้น 0.3% สู่ระดับ 1,301.90 เหรียญ
เฟดจะมีการประชุมขึ้นในวันที่ 29 และ 30 ม.ค. นี้ ขณะที่นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ถูกคาดการณ์ว่า จะออกมากล่าวยอมรับถึงความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯและสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
• นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่า ราคาทองคำมีแรงหนุนจากภาวะทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างอ่อนแอ จากสัญญาณว่าเฟดจะผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของทางอีซีบี
โดยเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งหมด 4 ครั้งในปีที่ผ่านมา พร้อมส่งสัญญาณจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีก 2 ครั้งภายในปีนี้ ขณะที่สมาชิกเฟดบางคนมีมุมมองว่าเฟดควรชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
• ทางด้านนายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้คาดการณ์ว่า ความอ่อนแอของเศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโมที่จะยืดเยื้ออกไปมากกว่าที่คาดไว้ จึงทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า อีซีบีอาจเลื่อนแผนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ออกไป
ทั้งนี้ ราคาทองคำมักปรับตัวสูงขึ้น หากมีสัญญาณเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่ชะลอตัวลง เนื่องจากจะทำให้ราคาทองคถูกลงสำหรับประเทศที่ไม่ได้ใช้สกุลเงินดอลลาร์
ในขณะที่ ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกจากข่าวที่รัฐบาลสหรัฐฯมีการตกลงที่จะกลับมาเปิดรัฐบาลจากภาวะ Shutdown เป็นการชั่วคราว
โดยภาวะ Shutdown ของสหรัฐฯที่ยืดเยื่อที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ปัจจัยอื่นๆยังมีเรื่องของการรายงานผลประกอบการที่หลายๆบริษัทมีแนวโน้มจะอ่อนแอลง และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ยังไม่สามารถหาจุดยืนร่วมกันได้
ราคาทองคำได้ปรับสูงขึ้นถึง 1.8% ในคืนวันศุกร์ ซึ่งเป็นอัตราปรับสูงขึ้นรายวันที่มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.ทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. 2018 โดยปรับขึ้นเหนือแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,300 เหรียญ หลังจากที่ราคามีทดสอบระดับดังกล่าวแต่ไม่สามารถผ่านขึ้นมาได้หลายต่อหลายครั้ง
• นักวิเคราะห์จาก Edward Meir มองว่า เนื่องจากราคาสามารถปรับขึ้นเหนือแนวต้านสำคัญได้ จึงมีโอกาสค่อนข้างดีที่ราคาจะสามารถปรับสูงขึ้นต่อไปได้อีก โดยปัจจัยที่ต้องจับตาคือการประชุมเฟด ที่อาจตัวกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายค่าเงินดอลลาร์ลงมาได้ รวมถึงหากมีสัญญาณเชิงบวกเกี่ยวกับประเด็น Brexit ก็จะเป็นผลดีต่อราคาทองคำได้อีก
· นักวิเคราะห์จาก Tradingview ประเมินทิศทางราคาทองคำเป็นขาขึ้นขึ้น โดยมีแนวต้านแรกที่ระดับ 1,320 เหรียญ แนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,347 เหรียญ จึงแนะนำให้หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัว
· ผลสำรวจจาก KITCO พบว่าทั้งบรรดานักวิเคราะห์และนักลงทุนทั่วไปต่างคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นได้ภายในสัปดาห์นี้
โดยทั้งนักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างมองว่า ปัจจัยที่จะช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับสูงขึ้นได้ จะมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองเป็นหลัก ประกอบกับแนวโน้มที่เฟดจะมีท่าระมัดระวังต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้
Richard Baker บรรณาธิการประจำ Eureka Miner Report ระบุว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มจะ Break แนวต้านสำคัญที่ 1,300 เหรียญได้ หลังจากราคาพยายามทดสอบแนวต้านดังกล่าวมาถึง 2 ครั้งในช่วงเดือน ม.ค. นี้ ซึ่งหาก Break ไปได้ ก็จะเปิดทางให้ราคาทองคำสามารถปรับขึ้นต่อไปได้ถึงระดับ 1,380 เหรียญภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2019 ตามที่เคยวิเคราะห์เอาไว้
ทั้งนี้ แบบสำรวจ Wall Street ที่สอบถามความคิดเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ทั้งหมด 18 คน พบว่ามีนักวิเคราะห์ 13 คนหรือ 72% ที่มองว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นสัปดาห์นี้ ขณะที่อีก 1 คน หรือ 6% มองว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลง และอีก 4 คน หรือ 22% มองว่าราคาจะเคลื่อนไหวSideways
ขณะที่แบบสำรวจ Main Street ที่สอบถามความคิดเห็นของบรรดานักลงทุนทั่วไปทั้งหมด 266 คน พบว่ามีนักลงทุน 126 คนหรือ 47% มองว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่อีก 77 คน หรือ 29% มองว่าราคาจะปรับตัวลดลง และอีก 63 คน หรือ 24% มองว่าราคาจะค่อนข้างทรงตัว
· ด้านราคาพลาเดียมทรงตัวที่บริเวณ 1,361.50 เหรียญ หลังราคาทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.434.50 เหรียญ เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา
· ขณะที่ราคาซิลเวอร์ทรงตัวบริเวณ 15.76 เหรียญ และราคาแพลทตินั่มปรับสูงขึ้น 0.3% บริเวณ 816 เหรียญ