โดยดัชนี Stoxx600 ปรับตัวลดลง ขณะที่หุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับลงเช่นเดียวกัน
ท่ามกลางแรงหนุนเชิงบวกจากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้และยินยอมที่จะหยุดภาวะ Shutdown ไว้ในวันที่ 35 และเปิดให้รัฐบาลกลับมาทำงานได้ปกติอีกครั้งเป็นการชั่วคราว
ด้านนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะมีการลงมติในรัฐสภาฯในคืนวันอัคารนี้ โดยหากได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอ เธอจะสามารถนำร่างข้อตกลง Brexit ไปเจรจากับทางอียูได้อีกครั้ง อย่างไรก็ดี เสียงส่วนใหญ่ในประเทศสมาชิกอียู ยังไม่สนับสนุนให้เกิดการเจรจาใหม่อีกครั้ง
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าจะปรับตัวลงจากระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ เนื่องจากได้รับข่าวการตกลงเปิดให้รัฐบาลกลับมาทำงานได้ปกติอีกครั้งเป็นการชั่วคราว ก่อนการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นทรงตัว
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้และยินยอมที่จะหยุดภาวะ Shutdown ไว้ในวันที่ 35 และเปิดให้รัฐบาลกลับมาทำงานได้ปกติอีกครั้งเป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะมีการเจรจาทางทางพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยระหว่างชายแดน โดยยินยอมที่จะไม่ของบประมาณจำนวน 5.7 พันล้านเหรียญในการก่อสร้างกำแพง
ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากเหล่านักลงทุนรู้สึกโล่งใจที่จะยุติการปิดตัวของรัฐบาลสหรัฐฯที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดลบ โดยดัชนี Nikkei ปิด -0.6% ที่ระดับ 20,649.00 จุด ท่ามกลางแรงกดดันจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นและความเชื่อมั่นในตลาดที่ค่อนข้างอ่อนแอ ขณะที่ตลาดเคลื่อนไหวค่อนข้างเบาบางในวันนี้ เนื่องจากบรรดานักลงทุนมีความลังเลที่จะเข้าซื้อ ก่อนหน้าการรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทในช่วงสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์จาก Investrust ระบุว่า ปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างต่ำในตลาดวันนี้ บ่งชี้ความกังวลของบรรดานักลงทุนที่มีต่อการรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ขณะที่ค่าเงินเยนญี่ปุ่นที่แข็งค่าวันนี้ จึงยิ่งกดดันความเชื่อมั่นของตลาด เนื่องจากค่าเงินเยนที่แข็งค่ามักไม่เป็นผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทในญี่ปุ่นที่เน้นไปด้านการส่งออก
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลดลง ท่ามกลางข้อมูลภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนแอเนื่องจากความกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและความหวังที่ว่าหัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์คนใหม่ของประเทศจะช่วยกระตุ้นตลาด
โดยได้แต่งนาย Yi Huiman เป็นหัวหน้าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของจีน (China Securities Regulatory Commission: CSRC) โดยให้ความสำคัญเกี่ยวกับการกำกับดูแลตลาดหุ้นของประเทศในช่วงเวลาที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.18% ที่ระดับ 2,596.98 จุด
· สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 62 จะเติบโตได้ 4% ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากปี 61 ที่เติบโตได้ 4.1% ขณะที่การส่งออกปีนี้คาดว่าจะเติบโต 4.5% การนำเข้า 5.4% อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ 1.0% อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ 0.9% โดยประเมินว่าการลงทุนภาคเอกชนในปีนี้จะเติบโตได้ 4.5% ด้านการลงทุนภาครัฐเติบโตได้ 5.3% ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนปีนี้ เติบโต 4.3% การบริโภคภาครัฐ เติบโต 2.3%