MTS Help Center

·         ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 434.9 จุด ที่ระดับ 25,014.86 จุด ซึ่งเป็นการกลับมาปิดเหนือ 25,000 จุดเป็นครั้งแรกได้ตั้งแต่ 4 ธ.ค. ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +1.56% และดัชนี Nasdaq ปิด +2.2% ซึ่งตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับขึ้นหลังจากที่เฟดยังคงดอกเบี้ย ที่ระบุถึงการจะอดทนรอต่อไปก่อน ขณะเดียวกันตลาดก็ตอบรับกับรายงานผลประกอบการบริษัท Boeing และ Apple ที่ออกมาอย่างแข็งแกร่ง

·         ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบัน Cresset Wealth กล่าวว่า ถ้อยแถลงของเฟดดูจะกำลังส่งผลต่อตลาดการเงินมากกว่าข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อคืนนี้ โดยตลาดตอบรับในเชิงเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยได้น้อยลง และเป็นไปได้ยากลำบากมากขึ้น

·         หุ้นบริษัท Boeing ดีดตัวขึ้น 6.25% หลังผลประกอบการรายไตรมาสออกมาดีขึ้นกว่า 1 แสนล้านเหรียญ เป็นครั้งแรก และทำให้สัญญาณชี้นำผลประกอบการปีนี้ดูจะยังแข็งแกร่ง

·         หุ้นบริษัท Apple ทะยานขึ้น 6.8% ตอบรับรายงานผลประกอบการที่ออกมาดีขึ้นเกินคาด แต่ภาพรวมยอดขายไอโฟนที่ผ่านมาก็ปรับตัวลงกว่าที่คาด และส่งผลให้ภาคบริษัทได้มีการหั่นแนวโน้มผลประกอบการไปเมื่อช่วงต้นเดือน อันได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวเศรษฐกิจจีน

·         ตลาดหุ้นเอเชียปรับขึ้นในวันนี้เพราะได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังจากที่เฟดยังจะอดทนรอต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยดัชนี ASX200 เปิด +0.3% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเปิดปรับขึ้นมาทรงตัวที่ 20,815 จุดในตลาดชิคาโก

·         นักบริหารเงิน คาดว่าเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.30-31.50 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่เงินบาทช่วงเย็นวานนี้อยู่ที่ระดับ 31.40 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.46 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทปรับตัวแข็งค่าสุดในรอบ 9 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย.61 ทั้งนี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าตามทิศทางของเงินหยวน และเป็นการแข็งค่าสอดคล้องกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค แต่เงินบาทแข็งค่ามากสุดเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น

·         รมว.คลัง กล่าวถึงค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ว่า เงินบาทไม่ควรแข็งค่านำโด่งประเทศคู่แข่ง เพราะการแข็งค่าที่นำโด่งแบบนี้ทำให้เสียเปรียบประเทศคู่แข่ง โดยเห็นว่าเป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ต้องเข้ามาดูแลไม่ให้ค่าเงินแกว่งหรือมีความผันผวนจนเกินไป

นอกจากนี้ ยังได้กล่าวว่า หากจีนมีข้อเสนอที่ดีพอในการผ่อนคลายข้อกำหนดทางการค้าต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็มีโอกาสที่รัฐบาลสหรัฐจะพิจารณายกเลิกมาตรการทางภาษีทั้งหมด และระบุว่า สหรัฐกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาในทุกประเด็น