MTS Help Center

ขณะที่เหล่านักลงทุนกำลังให้ความสนใจไปยังการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน

·         ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน หลังจากที่เฟดมีมติคงดอกเบี้ยตามกรอบเดิม 2.25-2.5% และพร้อมจะอดทนต่อการเปลี่ยนแปลงใดๆในอนาคต และจะจับตาไปยังเงื่อนไขทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงการให้สัญญาณที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมีมาก่อนว่าเฟดสนใจและกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจ 

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น ปรับตัวสูงขึ้น 0.9% ทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 เดือนต.ค.ที่ผ่านมา

·         ตลาดหุ้นญี่ปุ่นรีบาวด์ เนื่องจากเฟดมีมติคงดอกเบี้ยตามกรอบเดิม และอดทนต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ย จึงช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เผชิญกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว

โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 3.8% ที่ระดับ 20,773.49 จุด หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นไปที่ระดับ 20,869.42 ในช่วงเช้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.

ภาพรวมรายเดือนดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 3.8% หลังจากที่ร่วงลงไป 10.5% เมื่อเดืนอที่ผ่านมา

เหล่านักวิเคราะห์ ระบุว่า นักลงทุนญี่ปุ่นตอบรับกับท่าทีที่ระมัดระวังมากขึ้นของเฟด แต่อาจจะแนวโน้มที่ค่าเงินดอลลาร์จะปรับอ่อนค่าลง และช่วยหนุนค่าเงินเยนส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อหุ้นที่เน้นการส่งออก

·         ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นเอเชีย หลังจากที่เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมส่งสัญญาณกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายทางการเงินที่สิ้นสุดลงแล้ว ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.2% ที่ระดับ 2,584.57 จุด

·         ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยเดือนธ.ค.61 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวในทุกหมวดการใช้จ่าย แม้ชะลอลงบ้าง แต่เป็นผลของฐานสูงเป็นสำคัญ ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมและเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวในเดือนนี้ขยายตัวดี อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้ากลับมาหดตัว ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากรายจ่ายลงทุน

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงตามราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศและราคาอาหารสดที่ลดลง สำหรับอัตราการว่างงานที่ปรับฤดูกาลเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่อง ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลสุทธิ