โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดัชนีดอลลารืได้อ่อนค่าลงไปประมาณ 2.0% ซึ่งเป็นอัตราอ่อนค่ารอบ 2 เดือนที่มากที่สุดในรอบปี
· นักวิเคราะห์จาก TD Securities คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องภายในปีนี้ ท่ามกลางแรงกดดันจากสัญญาณผ่อนคลายทางนโยบายการเงินจากเฟด โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์อาจเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่การปรับร่วงแบบกระทันหันแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ทาง TD Securities คาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ได้อย่างน้อย 1 ครั้ง จากเดิมที่คาดไว้ 2 ครั้ง และอาจเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายของวัฏจักร
· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.14% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 108.87 เยน/ดอลลาร์ โดยทำระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 108.51 เยน/ดอลลาร์
เมื่อเทียบกับเงินยูโร ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.31% ที่บริเวณ 1.1441 ดอลลาร์/ยูโร
ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ขึ้นมาประมาณ 0.25% เคลื่อนไหวแถวบริเวณ 95.58 จุด
· การประกาศตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ พบว่ามีจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง จึงเป็นอีกปัจจัยที่กดดันค่าเงินดอลลาร์ แต่ตัวเลขดังกล่าวอาจเป็นผลกระทบมาจากภาวะ Shutdown ของสหรัฐฯที่กินเวลาเกือบ 5 สัปดาห์ ขณะที่ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ค่อนข้างสดใส โดยปรับขึ้นเกือบ 17% ในเดือน พ.ย. แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อดอลลาร์เท่าไหร่นัก
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่าเขาจะมีการประชุมร่วมกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนในเร็วๆนี้ เพื่อที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถหาข้อสรุปและร่วมลงนามฝนข้อตกลงทางการค้า หลังจากที่ตัวแทนการเจรจาในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ระบุว่า การเจรจามีความคืบหน้าอย่างมาก
โดยนายทรัมป์ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ทั้ง 2 ประเทศจะสามารถร่วมลงนามในข้อตกลงทางการค้า “ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ได้
ทั้งนี้ แม้จะยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจนว่านายทรัมป์จะพบกับนายจิ้นผิงเมื่อไหร่ แต่นายทรัมป์ได้กล่าวว่าการเจรจาอาจเกิดขึ้นได้มากกว่า 1 รอบ และได้มีการสั่งการให้นายโรเบิร์ต ไรท์ไฮเซอร์ ตัวแทนการค้าแห่งสหรัฐฯ และนายสติเว่น มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ติดต่อกับตัวแทนการเจรจาของจีน เพื่อนำทีมเจรจาของสหรัฐฯเดินทางไปเจรจาที่ประเทศจีนในช่วงกลางเดือน ก.พ. โดยทั้ง 2 ฝ่ายกำลังอยู่ในระหว่างการกำหนดวันที่ที่แน่นอน
ภายหลังจากการเจรจาระหว่างตัวแทนการค้าของทั้ง 2 ประเทศ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา นายหลิว เห่อ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจแห่งประเทศจีน ให้ยืนยันว่า ทางจีนจะเพิ่มปริมาณการเข้าซื้อเมล็ดถั่วเหลืองของสหรัฐฯ สู่ระดับ 5 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่เพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค. ถึงเท่าตัว
· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการค้าขายเป็นปัจจัยที่กดดันข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับการปรับลดการผลิตของกลุ่มโอเปก รวมมทั้งการส่งสัญญาณชะลอนโยบายทางการเงินของเฟด
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 44 เซนต์ ปิดที่ 53.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ ปิดที่ 61.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักวิเคราะห์น้ำมันประจำ Price Futures Group ในชิคาโก้ ระบุว่า
มีแนวโน้มที่จะทำกำไร หากมีสัญญาณของความอ่อนแอและถ้อยแถลงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ว่าอาจจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าหรืออาจถูกเลื่อนออกไป