· ราคาทองคำปรับตัวลดลงในวันนี้ หลังความต้องสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มฟื้นตัวจากความคืบหน้าในเชิงบวกของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ขณะแรงหนุนจากการชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดมีแนวโน้มจะช่วยให้ราคาทองคำสามารถปิดตลาดสัปดาห์ในแดนบวกได้เป็นสัปดาห์ที่ 2
ทั้งนี้ ราคาทองคำปรับลดลง 0.3% บริเวณ 1,316.95 เหรียญในช่วงบ่ายวันนี้ โดยราคาทำระดับสูงสุดเมื่อวานนี้ที่ 1,326.30 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 26 เม.ย. สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ ทองคำมีแนซโน้มปรับสู.ขึ้นได้ 1.1%
ขณะที่ราคาสัญญาทองคำ COMEX ปรับลดลง 0.2% บริเวณ 1,317.10 เหรียญ
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่าเขาจะมีการประชุมร่วมกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนในเร็วๆนี้ เพื่อที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถหาข้อสรุปและร่วมลงนามฝนข้อตกลงทางการค้า หลังจากที่ตัวแทนการเจรจาในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ระบุว่า การเจรจามีความคืบหน้าอย่างมาก
· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ระบุว่า หากมีสัญญาณเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้า ก็อาจเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำได้ เนื่องจากมุมมองของตลาดที่ดีขึ้นต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก อาจทำให้การผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟด มีความชัดเจนและส่งผลที่ดีขึ้นต่อเศรษฐกิจได้
ราคาทองคำปรับสูงขึ้นได้เกือบ 3% ในเดือน ม.ค. ท่ามกลางความหวังว่าเฟดจะชะลอวัฏจักรการขึ้นอัตราดอกเบีย้ของพวกเขาลงในปีนี้
อีกปัจจัยที่สร้างความกังวลให้กับตลาดและหนุนราคาทองคำ คือตัวเลขกิจกรรมของภาคอุตสาหกรรมจีนในเดือน ม.ค. ที่ชะลอตัวลงด้วยอัตราที่มากที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี
อย่างไรก็ตาม ตลาดจะจับตาการประกาศตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯในคืนนี้ ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า ภาวะ Shutdown จะส่งผลกระทบต่อตัวเลขในคืนนี้มากแค่ไหน
· ทั้งนี้ ตลาดยังคงมีความต้องการทองคำในระดับที่แข็งแกร่ง เห็นได้จากการถือครองทองคำของกองทุน SPDR ที่ยังถือครองอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. ปีก่อน ภายในช่วงสัปดาห์นี้
· นักวิเคราะห์จาก BullionStar มองแนวรับแรกของทองคำไว้ที่ 1,310 เหรียญ และแนวรับสำคัญที่ 1,300 เหรียญ ส่วนแนวต้านมองไว้ที่ระดับ 1,325 เหรียญ
· ราคาพลาเดียมทรงตัวบริเวณ 1,342.98 เหรียญ ขณะที่แพลทินั่มปรับลดลง 0.5% บริเวณ 815.50 เหรียญ
· ส่วนราคาซิลเวอร์ปรับลดลง 1% บริเวณ 15.91 เหรียญ หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดของเดือน ก.ค. ปี 2018 ที่ระดับ 16.19 เหรียญ ในช่วงตลาดก่อนหน้า