· ตลาดหุ้นเอเชียทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน หลังจากข้อมูลภาคแรงงานและข้อมูลภาคการผลิตทของสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่ง
โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น อ่อนแอลงเล็กน้อย หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก
การซื้อขายในวันนี้ค่อนข้างซบเซาเนื่องจากเป็นวันหยุดในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งตลาดการเงินของจีนจะปิดทำการตลาดทั้วสัปดาห์ ขณะที่เกาหลีใต้จะปิดทำการจนถึงวันพฤหัสบดีนี้
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากหุ้นกลุ่มการเงินเพิ่มขึ้นหลังจากข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาสดใส อย่างไรก็ดี หุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นได้อย่างจำกัด เนื่องจากผลประกอบการบริษัท Sony และ Honda ที่ออกมาอ่อนแอ
โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.5% ที่ระดับ 20,883.77 จุด
นักกลยุทธ์ ประจำ Mizuho Securities ระบุว่า เหล่านักลงทุนคาดว่า ตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัว อย่างไรก็ดี ต้องรอผลประกอบการทั้งปีเพราะเป็นเรื่องที่ยากหากจะเห็นการฟื้นตัวในช่วงไตรมาสแรก เนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บริษัทในกลุ่มดัชนีจำนวน Topix กว่า แห่ง 503 จากทั้งหมดจำนวน 1,308 แห่ง ประกาศผลประกอบการรายไตมาสพบว่าค่าเฉลี่ยของผลประกอบการลดลง 18% เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า
· นักวิชาการ มองว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าอยู่ในขณะนี้มองว่ามีความผิดปกติ แต่เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้น ภาคเอกชนจะต้องจับตาอย่างใกล้ชิดโดยจะต้องมีการบริหารความเสี่ยง โดยระบุว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. วันที่ 6 ก.พ.นี้ คาดว่าที่จะประชุมจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม เนื่องจากในการประชุมครั้งก่อน 19 ธ.ค.2561 ได้ปรับขึ้น 0.25% ไปแล้ว ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจไทยก็ยังไม่ดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออก นอกจากนี้ยังมีความไม่แน่นอนสูงจากเศรษฐกิจโลก เนื่องจากสงครามการค้า ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่าอยู่ในขณะนี้มองว่ามีความผิดปกติ แต่เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้น ภาคเอกชนจะต้องจับตาอย่างใกล้ชิดโดยจะต้องมีการบริหารความเสี่ยง