· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความหวังว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนรอบล่าสุด ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวานนี้ จะสามารถแก้ไขข้อพิพาททางการค้าของทั้ง 2 ประเทศได้ รวมถึงมีแรงหนุนบางส่วนมาจากการรายงานผลประกอบการของภาคบริษัทที่ค่อนข้างสดใส
ความเชื่อมั่นของตลาดยังดีขึ้น หลังมีรายงานว่า บรรดา ส.ส. ในสภาคองเกรสสามารถบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณฉบับชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะShutdown ก่อนถึงวันศุกร์นี้ แต่ยังคงไม่มีการมอบงบประมาณก่อสร้างกำแพงชายแดนเป็นมูลค่า 5.7 พันล้านเหรียญแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับตัวสูงขึ้น 0.3%
บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่า ผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทในสหรัฐฯมีแนวโน้มจะปรับลดลงไป 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งจะเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2016
· ดัชนี HSI ปิดปรับขึ้น 27.49 จุด คิดเป็น +0.10% ที่ระดับ 28,171.33 จุด ขณะที่ดัชนี Nikkei ปิดปรับขึ้นตามรายงานที่ว่าสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯเห็นพ้องกันใน-ข้อตกลงหลักๆเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Shutdown และส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่า โดยดัชนี Nikkei ปิด +2.61% หรือปรับขึ้น 531.04 จุด ที่ระดับ 20,864.21 จุด ทางด้าน Topix ปิด +2.16%
· นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนากยรัฐมนตรีเข้าประชุมหารือ เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการลงทุนที่กระทรวงคมนาคมวันนี้ว่า รองนายกสมคิดได้เร่งรัดให้กระทรวงดำเนินโครงการลงทุนให้เป็นไปตามแผน โดยภายใน ก.พ.-มี.ค. นี้ กระทรวงคมนาคม จะผลักดันการลงทุนจำนวน 21 โครงการ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติในช่วงที่มีการเลือกตั้ง
· นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและติดตามงานสำคัญของกระทรวงคมนาคม โดยให้ทุกหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงคมนาคม เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนภาครัฐ เพื่อเป็นกลไกลสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หลังจากการส่งออกมีทิศทางไม่ดีนัก ขณะที่การเลือกตั้งในประเทศกำลังเป็นที่จับตาของนักลงทุน
"ครึ่งปีแรกหากเร่งลงทุนเต็มที่ ก็จะประคองเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นไปได้ เชื่อว่าหลังเลือกตั้งเสร็จเศรษฐกิจไทยจะเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่ต้องกังวลต่อไป" นายสมคิด กล่าว