· ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 117.51 จุด ที่ระดับ 25,543.27 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิด +0.3% ที่ 2,753.03 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.08%ที่ 7,420.38 จุด ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่มีความคาดหวังว่าการเจรจาการค้าของสหรัฐฯและจีนจะบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ก่อนต้นเดือนมี.ค.
· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับขึ้นท่ามกลางมุมมองเชิงบวกทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่อาจสามารถแก้ไขปัญหาระยะยาวร่วมกันได้ โดยดัชนีStoxx600 ปิดปรับขึ้นประมาณ 0.6%
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดค่อนข้างทรงตัว ท่ามกลางตลาดที่กำลังจับตาความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ขณะที่ตลาดมีมุมมองที่ดีขึ้น หลังมีรายงานว่า ประธานาธิบดีจีน จะพบกับตัวแทนการเจรจาระดับสูงของสหรัฐฯภายในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
โดยดัชนี Nikkei และดัชนี Topix ของญี่ปุ่นต่างเปิดตลาดค่อนข้างทรงตัว ขณะที่ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.6%
· นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.20 - 31.45 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ภาพรวมเมื่อวานนี้ ถือว่าเงินบาทแข็งค่าน้อยกว่าสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ปัจจัยการเมืองในประเทศแม้จะเริ่มมีผลต่อค่าเงินบ้างแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในวงจำกัด โดยภาพรวมแล้วเงินบาทยังเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค
· รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ไทย กล่าวถึงสถานการณ์เงินบาทแข็งค่าในขณะนี้ว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้หารือเรื่องนี้กับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ซึ่ง ธปท. กำลังดูแลอย่างใกล้ชิด
· ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยใช้สมมติฐานกรณีว่าจะเกิดขึ้นประมาณ 2 เดือน พบว่ามีมูลค่าผลกระทบประมาณ 6,100 ล้านบาท