· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากที่ นางแมรี ดาร์ลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ระบุว่า เฟดอาจคงดอกเบี้ยในปีนี้ จึงลดความต้องการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงอย่างค่าเงินดอลลาร์ลงไป
ในรายงานการสัมภาษณ์ของ Wall Street Journal เผยว่า นางดาร์ลี ระบุว่า เฟดอาจไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ท่ามกลางภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ โดยหากเศรษฐกิจมีการค่อยๆฟื้นตัวก็ดูจะขยายตัวได้ภายใน 2% ขณะที่เงินเฟ้ออยู่ที่ 1.9% โดยไม่มีแรงกดดันด้านราคาที่ปรับตัวขึ้น และไม่มีสัญญาณการเร่งการเติบโตใดๆ ดังนั้น เฟดจึงไม่ควรขึ้นดอกเบี้ยปีนี้
ดัชนีดอลลาร์ปรับลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 96.901 จุด หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจหลายๆตัว อย่างยอดค้าปลีกออกมาน่าผิดหวัง
ด้านค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นจากระดับต่ำสุดรอบ 3 เดือน โดยปิด +0.04% ที่ระดับ 1.1295 ดอลลาร์/ยูโร โดยช่วงแรกค่าเงินยูโรอ่อนค่าจากถ้อยแถลงของสมาชิกอีซีบี มองความเป็นไปได้ของยอดสินเชื่อที่จะปรับตัวลงครั้งใหม่ในปีนี้ที่จะถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นหารือ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจยูโรโซนที่ชะลอตัวลงมากกว่าที่ทางอีซีบีได้เคยคาดการณ์ไว้ในช่วงต้น ขณะที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มจะชะลอตัวลง
· นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีการกล่าวกับผู้นำยุโรปและผู้อำนวยการคณะกรรมาธิการอียูในการหาทางเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของเธอในการออกจากอียู หลังจากที่เธอยังคงพ่ายแพ้เสียงสนับสนุนในสภาฯ ขณะที่บรรดาภาคธุรกิจมองว่า อังกฤษน่าจะออกจากอียูแบบ No-Deal ในวันที่ 29 มี.ค.นี้
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้รับข้อมูลอัพเดตเรื่องการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเขาดูจะยังกล่าวย้ำถึงความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างสองประเทศก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 มี.ค. นี้ ขณะที่ทางทำเนียบขาวไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดใหม่ใดๆเพิ่มเติม
ทั้งนี้ นางซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกประจำทำเนียบขาย เปิดเผยว่า นายทรัมป์ ได้รับสรุปรายงานจาก นายโรเบิร์ต ไลท์ไธเซอร์ ตัวแทนทางการค้าสหรัฐฯ, นายวิลเบอร์ รอส รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์, นายมิค มัลวานีย์ ผู้อำนวยการเจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาว และนายปีเตอร์ นาวาโร ผู้เชี่ยวชาญทางการค้าของสหรัฐฯ ขณะที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และนายแลรี คุดโลว์ ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้เข้าร่วมสรุปรายงานผ่านทางโทรศัพท์ และหลังจากได้รับรายงานทางการค้าจากเจ้าหน้าที่ทั้งหมด นายทรัมป์ ก็มีการระบุในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า การเจรจากับจีนค่อนข้างเป็นไปอย่างดีเยี่ยม
อย่างไรก็ดี ทั้งรายงานจากสหรัฐฯและจีนเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาทางการค้าตลอด 5 วันทำการ ที่ประเทศจีนดูจะมีความสำเร็จมากขึ้น แต่ทางทำเนียบขาวต้องการบังคับให้จีนมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการค้าอย่างแล้วเสร็จ
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวิตเตอร์ข้อความในวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ทางสหรัฐฯขอเรียกร้องให้ชาติพันมิตรยุโรปสนับสนุนกองกำลัง 800 นาย ในการต่อสู้กับกลุ่ม IS ในซีเรีย
· ในวันเสาร์ที่ผ่านมา ตัวแทนจากรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯจะไม่ให้การช่วยเหลือประเทศซาอุดิอาระเบียในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านนิวเคลียร์ โดยปราศจากการการันตีว่าการดำเนินการเป็นไปเพื่อสาธารณะประโยชน์ของประชาชนเท่านั้น
· ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดเหนือ 66 เหรียญ/บาร์เรล และไปทำระดับสูงสุดใหม่ของปีนี้ได้ จากภาวะอุปทานน้ำมันของกลุ่มโอเปก ขณะที่สัปดาห์ที่แล้วตลาดตอบรับกับการปรับลดกำลังการผลิตที่มากกว่าที่คาดของประเทศซาอุดิอาระเบีย
น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 1.68 เหรียญ ที่ระดับ 66.25 เหรียญ/บาร์เรล คิดเป็น +2.6% ซึ่งถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ 19 พ.ย. โดยภาพรวมรายสัปดาห์ปิดปรับตัวขึ้นได้ 6.7%
น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 1.18 เหรียญ คิดเป็น +2.2% ที่ระดับ 55.58 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับปิดที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ 19 พ.ย. โดยภาพรวมรายสัปดาห์ปรับขึ้นได้ 5.4%
· Oil Price Information Service กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบ WTI มีแนวโน้มจะเริ่มต้นที่ดีที่สุด และอาจจะไม่มีอุปสรรคใดๆขวางกั้นการขยายตัวในไตรมาสที่ 2 นี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่เราจะเห็นราคา WTI ปรับขึ้นสูงกว่า ณ ปัจจุบันนี้ ซึ่งถึงแม้เขาจะคาดว่าราคาน้ำมันดิบในปีนี้จะถูกกว่าปีที่แล้ว แต่ภาพรวมน่าจะเคลื่อนไหวแถว 65.06 เหรียญ/บาร์เรล