· ราคาพลาเดียมปิดทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะยานใกล้ 1,500 เหรียญได้เมื่อวานนี้ จากการปรับตัวลงของอุปทาน โดยปิด +1.68% ที่ระดับ 1,481.5 เหรียญ หลังจากช่วงต้นตลาดทำ All-Time High ไปที่ 1,491 เหรียญ ขณะที่ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้นได้กว่า 1% ไปทำระดับสูงสุดรอบ 10 เดือน ท่ามกลางการอ่อนค่าของดอลลาร์ และความกังวลต่อภาวการณ์ขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก
· การกลับมาอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์จากระดับสูงสุดรอบ 2 เดือน เป็นผลส่วนหนึ่งจากการที่เจรจาการค้าดูจะเป็นไปได้ด้วยดี และนั่นได้ช่วยหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.86% ที่ระดับ 1,337.51 เหรียญ หลังจากที่ช่วงต้นตลาดไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 20 เม.ย. ที่ 1,341.18 เหรียญ ทางด้านสัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดปรับขึ้น 22.7 เหรียญ ที่ระดับ 1,344.8 เหรียญ
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ทำการเทขายทองคำ 0.58 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 792.45 ตัน
· นักวิเคราะห์จาก SP Angel กล่าวว่า ทองคำยังได้รับอานิสงส์จากหลักฐานบ่งชี้ถึงสภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก อันจะเห็นได้จากถ้อยแถลงเชิงผ่อนคลายนโยบายการเงินจากบีโอเจ และอีซีบี ซึ่งการส่งสัญญาณดังกล่าวจากธนาคารกลางข้างต้นเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอทั้งจากสหรัฐฯและจีน
· กลุ่มนักลงทุนมองหาสัญญาณรายงานประชุมเฟดเดือนม.ค. ที่จะเปิดเผยในวันนี้ ว่าจะบ่งชี้ถึงสภาวะการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้
· ภาวะอุปทานในพลาเดียมมีแนวโน้มจะปรับตัวลงมากขึ้นในปีนี้ ท่ามกลางอุปสงค์ที่กลับมาเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ อันจะเห็นได้จากบริษัทผู้ผลิตอย่าง Johnson Matthey ที่ระบุไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน
· หัวหน้านักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities กล่าวเสริมว่า นอกจากเรื่องอุปทานแล้ว พลาเดียมดูจะได้รับอานิสงส์จากความต้องการในภาคยานยนต์เพิ่มขึ้น จากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการเจรจาการค้าของสหรัฐฯและจีนที่เป็นไปในเชิงบวก
· อย่างไรก็ดี บรรดานักวิเคราะห์บางส่วนยังคงกล่าวเตือนว่า ราคาพลาเดียมมีการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป และอาจกลับสู่ภาวะปรับฐานอีกครั้งได้
· ราคาแพลทินัมปิด +1.9% ที่ 817.23 เหรียญ ขณะที่ราคาซิลเวอร์ปิด +0.92% ที่ 15.94 เหรียญ