อย่างไรก็ดี ค่าเงินปอนด์ยังยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย Fibonacci Retracement 61.8% ที่ 1.3217 / 1.2772 ดอลลาร์/ปอนด์ และดูเหมือนในกราฟราย 4 ชม. จะมีสัญญาณ Overbought ขณะที่ RSI ยังคงมีการปรับตัวลงจากเส้น Bullish ที่เกิดขึ้น และขณะเดียวกันราคาก็ยังยืนเหนือเส้น SMA ราย 20 ได้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นการปรับตัวขึ้นก่อนทราบผลการประชุมดังกล่าว และความไม่แน่นอนของการเจรจาอาจนำมาให้ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงมาจากระดับแข็งค่าอีกครั้ง
แนวรับ: 1.3050, 1.3010 และ 1.2970
แนวต้าน: 1.3090, 1.3140 และ 1.3185
· ค่าเงินรูเบิลรัสเซียอ่อนค่าลงในช่วงต้นตลาดวันนี้ แต่ก็ยังทรงตัวใกล้ระดับแข็งค่ามากที่สุดรอบ 1 สัปดาห์ ท่ามกลางการรอคอยถ้อยแถลงของ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งเป็นการแถลงรายงานประจำปีต่อรัฐสภาฯ โดยค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลงมา 0.1% ที่ 65.83 รูเบิล/ดอลลาร์ หลังจากแข็งค่าไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 13 ก.พ. ที่ 65.74 รูเบิล/ดอลลาร์
อย่างไรก็ดี คาดว่า ถ้อยแถลงของนายปูติน น่าจะกล่าวถึงภาพรวมวงกว้างทั้งภายในและภายนอกประเทศ
· ธนาคารกลางจีน ได้ออกมาตรการ "Central Bank Bill Swap (CBS) เป็นครั้งแรกในวันนี้ ด้วยวงเงิน 1.5 พันล้านหยวน (ราว 222 ล้านเหรียญ) เพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์ออกหุ้นกู้ที่ไม่กำหนดวันไถ่ถอน (perpetual bond)
โดยนาย Pan Gongsheng รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวว่า จีนจะเตรียมเครื่องมือสนับสนุน ประกอบไปด้วยการขยายแนวทางให้กับนักลงทุนในตลาดพันธบัตร และเพื่อช่วยกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อในระบบเศรษฐกิจ
· สัญญายางพารา TOCOM ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดรอบ 4 สัปดาห์ จากความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯและจีนจะบรรลุข้อตกลงทางการค้าร่วมกัน ขณะเดียวกันตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีการฟื้นตัว รวมทั้งราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นได้ช่วยหนุนความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง
สัญญา Rubber TOCOM ส่งมอบเดือน ก.ค. ปรับขึ้น 4.5 เยน คิดเป็น +2.5% ที่ 187 เยน/กก. หรือ 1.69 เหรียญ ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 22 ม.ค. ขณะที่สัญญา Rubber Shanghai ส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับขึ้น 175 หยวน ที่ระดับ 11,815 หยวน/ตัน หรือคิดเป็น 1,7476 เหรียญ
นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Fujitomi กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของราคายางในตลาดมาจากการปรับขึ้นของดัชนีนิกเกอิ และราคายางในไทยที่หนุนให้ราคายางในตลาด TOCOM ปรับขึ้นตาม
· นายปีเตอร์ แพร็ท หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากอีซีบี ระบุว่า ในเร็วๆนี้อีซีบีจะมีการหารือว่าจะมีการเตรียมมาตรการเงินกู้แก่ภาคธนาคารรอบใหม่หรือไม่ แต่อาจไม่ได้เป็นการตัดสินใจในทันที เพียงแต่จะหยิบยกประเด็นดังกล่าวเข้าสู่สภาในเร็วๆนี้
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่า เขาจะสามารถจัดการโน้มน้าวให้สมาชิกที่ไม่เห็นด้วยทั้ง 16 เขตของสหรัฐฯเห็นด้วยแก่การประกาศภาวะฉุกเฉินสำหรับงบก่อสร้างกำแพงพรมแดนเม็กซิโก เพราะในท้ายที่สุด เขาก็ยังมั่นใจว่าทุกอย่างจะประสบความสำเร็จด้วยเสียงสนับสนุนจากบรรดาสมาชิกทั้งหลาย
· ตัวแทนระดับสูงของรัฐบาลจีนที่เดินทางเยือนสหรัฐฯเพื่อเจรจากันต่อ ระบุว่า สหรัฐฯควรเคารพต่อความถูกต้องของจีนในการพัฒนาที่จะนำไปสู่ผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการย้ำว่า จีนเปิดประเทศแก่เพื่อบ้านทั่วโลก ซึ่งทั่วโลกก็ควรเปิดกว้างเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังคงมีการเริ่มเต้นกลับมาเจรจากันรอบใหม่อีกครั้งในสัปดาห์นี้ เพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาททางการค้าระหว่างกัน
· นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะทำการเดินทางเยือนอียูในวันนี้ และคาดหวังว่า นายฌ็อง คล็อด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการอียูน่าจะเห็นชอบมากขึ้นต่อแนวทางการแก้ไขข้อตกลง Brexit ของเธอ
· ราคาน้ำมันปรับขึ้นแถวระดับสูงสุดของปีนี้ โดยยังได้รับอานิสงส์จากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อย่งาโอเปก รวมทั้งการที่สหรัฐฯคว่ำบาตรอิหร่านและเวเนซุเอลาด้วย แต่ข้อมูลกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ และกระแสคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงก็ดูจะเป็นปัจจัยจำกัดการเคลื่อนไหวของราคาอยุ่บ้าง
น้ำมันดิบ WTI แตะระดับสูงสุดของปีนี้ได้ที่บริเวณ 56.39 เหรียญ/บาร์เรล หรือปรับเพิ่มขึ้น 30 เซนต์ คิดเป็น +0.5% เมื่อเทียบจากระดับปิดก่อนหน้า ทางด้านน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 13 เซนต์ คิดเป็น +0.2% ที่ระดับ 66.58 เหรียญ/บาร์เรล และยังเคลื่อนไหวไม่ห่างจากระดับสูงสุดของปีที่ 66.83เหรียญ/บาร์เรล ที่ทำไว้เมื่อวานนี้
· ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกกลุ่มโอเปก และผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ คาดว่าจะมีการปรับลดการขนส่งน้ำมันดิบ WTI ในเอเชียช่วงเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพยายามสร้างความตึงตัวให้แก่ตลาดน้ำมัน ขณะที่ประเทศสมาชิกนอกโอเปก อย่าง รัสเซีย ก็เห็นพ้องที่ปรับลดกำลังการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อช่วยให้อุปทานน้ำมันในตลาดปรับตัวลง
· BNP Paribas คาดหวังว่า การปรับลดกำลังการผลิตของซาอุดิอาระเบีย จะทำให้กำลังการผลิตในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ มียอดน้ำมันน้อยกว่า10.31 ล้านบาร์เรล/วัน ตามที่สมาชิกกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มเห็นพ้องกันในการประชุมเมื่อ 7 ธ.ค. และการปรับลดดังกล่าวส่งผลให้ BNP Paribas คาดว่าจะเห็นราคาฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วง Q3 ของปีนี้ โดยที่น้ำมันดิบ Brent จะมีราคาเฉลี่ยที่ 73 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI จะมีราคาเฉลี่ย 66เหรียญ/บาร์เรล