ขณะที่จะจับตาความเคลื่อนไหวของการเจรจาเพื่อยุติสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนอย่างใกล้ชิด
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 0.1% บริเวณ 1,339.88 เหรียญ หลังจากขึ้นไปทำระดับสูงสุดเมื่อคืนนี้ที่ 1,346.73 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 19 เม.ย. ปีก่อน
ด้านราคาสัญญาทองคำปรับลง 0.4% บริเวณ 1,342.8 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ระบุว่า ราคาทองคำถูกกดดันจากทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค โดยปัจจัยพื้นฐานที่กดดันคือเรื่องของรายงานการประชุมเฟด ส่วนทางเทคนิคถือการที่ราคากำลังเผชิญกับแรงเทขายทำกำไร
ด้านดัชนีดอลลาร์ ทรงตัวที่บริเวณ 96.518 จุด
· รายงานการประชุมเฟดระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯและตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า เฟดจะยังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกอย่างน่อย 1 ครั้งในปีนี้
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters ระบุว่า ราคาทองคำมีแนวโน้ทมจะย่อตัวลงในกรอบระหว่าง 1,321 – 1,331 เหรียญ และน่าจะขึ้นไปได้มากที่สุดแถวแนวต้านที่บริเวณ 1,351 เหรียญ
· ตลาดกำลังจับตาความคืบหน้าของการเจรจาการค้ารอบล่าสุดระหว่างสหรัฐฯ-จีน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จะมาพบกันภายในสัปดาห์หน้า เพื่อร่วมสรุปข้อตกลงทางการค้า
ขณะที่นายทรัมป์ระบุว่า การเจรจาการค้าดำเนินไปได้ด้วยดี และระบุว่าเขาเปิดกว้างต่อการขยายเดดไลน์เดิมในวันที่ 1 มี.ค. ออกไป เพื่อที่จะให้สามารถบรรลุการเจรจาร่วมกันได้
· นักวิเคราะห์จาก Religare Broking Ltd. ระบุว่า หลังจากที่ราคาทองคำสามารถหาแนวรับสำคัญได้ที่ระดับ 1,300 เหรียญ และราคายังมีการปรับขึ้นทะลุระดับ 1,326 เหรียญขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง จึงมีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับขึ้นต่อไปยังบริเวณ 1,365 เหรียญได้
· ด้านราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.1% บริเวณ 1,490.00 เหรียญ โดยราคามีการยืนเหนือระดับ 1,500 เหรียญได้ในช่วงก่อนหน้านี้ ท่ามกลางภาวะขาดแคลนอุปทาน
· ราคาแพลทินั่มปรับลดลง 0.2% บริเวณ 821 เหรียญ ขณะที่ราคาซิลเวอร์ปรับลดลง 0.1% บริเวณ 16.01 เหรียญ