โดยดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่บริเวณ 96.582 จุด หลังจากปรับแข็งค่าขึ้นมาได้ 0.15% ในคืนที่ผ่านมา หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลสหรัฐฯขยายตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์จากข่าวความคืบหน้าในเชิงบวกของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์ไม่สามารถแข็งค่าขึ้นไปได้มากกว่านี้ เนื่องจากถูกกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ประกาศออกมาค่อนข้างอ่อนแอ โดยเฉพาะยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดขายบ้านมือสอง จึงยิ่งตอกย้ำถึงแนวโน้มที่เฟดอาจพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ย
· นักวิเคราะห์จากสถาบัน Gaitame.Com Research ประเมินว่า ตลาดการเงินเริ่มเข้าสู่ภาวะที่ไม่ค่อยตอบรับกับข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมือง และหันกลับไปให้ความสนใจกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่มีการประกาศตัวการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ
· ด้านค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.05% ที่บริเวณ 1.1340 ดอลลาร์/ยูโร และมีแนวโน้มปิดตลาดรายสัปดาห์แข็งค่าขึ้นได้ 0.4%
· ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินเยนที่บริเวณ 110.66 เยน/ดอลลาร์ หลังจากอ่อนค่าลงมาเมื่อคืน และมีแนวโน้มปิดตลาดรายสัปดาห์แข็งค่าขึ้นได้ 0.2
· ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเรียปรับแข็งค่าขึ้น 0.3% ที่บริเวณ 0.7109 ดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อวานนี้อ่อนค่าลง 1% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 วัน ท่ามกลางความกังวลของตลาดว่าการแบนการนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเรียสู่จีน จะยิ่งกดดันเศรษฐกิจออสเตรเรียที่ชะลอตัวอยู่แล้วลงไปอีก

· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตข้อความส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ของการผ่อนคลายการกดดันบริษัท Huawei ของจีน และยังมีการกล่าวถึงเทคโนโลยี “6G”
ข้อความดังกล่าวสร้างความประหลาดใจให้กับโซเชี่ยล เนื่องจากเทคโนโลยี 6G ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง ขณะที่การพัฒนาเทคโนโลยีเครือข่าย 5G ในสหรัฐฯก็ยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนาเท่านั้น
ทั้งนี้ แม้นายทรัมป์จะไม่ระบุถึงประเทศจีนหรือ Huawei โดยตรง แต่ตลาดก็มองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ข้อความดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับจีน เนืองจากจีนเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาเทคโนโลยี 5G รวมทั้งนายทรัมป์ยังได้ระบุว่า เขาเปิดกว้างต่อการขยายเวลาของเดดไลน์ในวันที่ 1 มี.ค. ที่จะนี้ออกไป เพื่อช่วยการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนประสบความสำเร็จ
· ราคาน้ำมันปรับลดลงจากระดับสูงสุดของปี 2019 หลังรายงานจากรัฐบาลสหรัฐฯระบุว่าปริมาณสต็อกน้ำมันของสหรัฐฯยังคงขยายตัวติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 ท่ามกลางปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯที่ยังอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่เป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมัน
ขณะที่ราคาน้ำมันมีแรงหนุนบางส่วนมาจากมาตรการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก การคว่ำบาตรเวเนซุเอลา และสัญญาณเชิงบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
ทั้งนี้ ราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิด -20 เซนต์ ที่ระดับ 56.96 เหรียญ/บาร์เรล โดยระหว่างวันราคาขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 57.61 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์
ขณะที่ ราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิด -13 เซนต์ ที่ระดับ 66.95 เหรียญ/บาร์เรล โดยระหว่างวันราคาขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 67.38 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของปี 2019