· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบ ท่ามกลางการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาเป็นที่ผิดหวังต่อตลาด ขณะที่ตลาดยังคงจับตาการเจรจาการค้าระหว่างตัวแทนระดับสูงจากจีนและสหรัฐฯ
โดยดัชนีดาวโจนส์ปิด -103.81 จุด ที่ระดับ 25,850.63 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ปิด -0.35% ที่ระดับ 2,774.88 จุด นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานและสุขภาพ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิด -0.4% ที่ระดับ 7,459.71 จุด
ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable goods orders) ของสหรัฐฯประกาศออกมาขยายตัว 1.2% น้อยกว่าที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 1.6% ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน (Core durable goods orders) ประกาศออกมาขยายตัวที่ 0.1% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.3%
ขณะที่ดัชนีภาคธุรกิจโดยเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia Federal Reserve business index) ประกาศออกมาที่ระดับ -4.1 จุด สำหรับเดือน ก.พ. ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. ปี 2016 ลดลงจากเดิมที่ระดับ 17 จุด ในเดือน ม.ค.
· นักวิเคราะห์จาก Deltec International Group มองว่า เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มส่งสัญญาณอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง จึงมีโอกาสส่งกระทบในทางลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงในไตรมาสต่อๆไป ขณะที่เฟดอาจเริ่มพิจารณาดำเนินการอะไรสักอย่าง มากกว่าที่จะเฝ้ารอและจับตาทิศทางเศรษฐกิจต่อไป
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดค่อนข้างทรงตัว หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดในแดนลบ ขณะที่ตลาดกำลังจับตาความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมถึงความเชื่อมั่นของตลาดหุ้นที่ยังคงถูกกดดันโดยสัญญาณของการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น เปิด +0.1% ส่วนดัชนีตลาดหุ้นออสเตรเรียเปิด +0.5% ขณะที่ดัชนี Nikkei เปิด -0.3%
เหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะถึงเดดไลน์ของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ในวันที่ 1 มี.ค. ขณะที่มีรายงานความคืบหน้ามาจากสำนักข่าว Reuters ที่ระบุว่า ตัวแทนการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่าย ได้มีการร่าง MOU หรือหนังสือบันทึกข้อตกลงที่เข้าใจตรงกัน ซึ่งคลอบคลุมไปยังประเด็นความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมากที่สุด จึงช่วยหนุนให้ตลาดมีความเชื่อมั่นฟื้นขึ้นมาได้บางส่วน
· พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีคำร้องให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ว่า ขณะนี้กกต.อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ปรากฎหลักฐาน มีเพียงแต่คำร้องที่ยื่นให้กับ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองเท่านั้น จึงต้องไปตรวจสอบหลักฐานเพื่อรวบรวมให้ กกต.พิจารณา
เลขาธิการ กกต.ระบุว่า หลักฐานและคำร้องมีความแตกต่างกัน ต้องเข้าใจกระบวนการ เพราะมีการเปรียบเทียบว่ากับกรณีอื่นว่าเมื่อร้องแล้วเหตุใดจึงมีคำสั่งยุบพรรค อำนาจของ กกต.คือเมื่อปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าสามารถส่งให้ศาลพิจารณาได้เลย ซึ่งอีกกรณีหนึ่งมีปรากฏหลักฐานให้ กกต.เห็นและเชื่อได้ว่ากระทำความผิดตามมาตรา 92 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
อย่างไรก็ตาม คำร้องยุบพรรคพลังประชารัฐคาดว่าจะเสนอให้ กกต.พิจารณาได้ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้
· นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 31.15-31.25 บาท/ดอลลาร์
· สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมประจำเดือน ม.ค.62 อยู่ที่ระดับ 93.8 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 93.2 ในเดือน ธ.ค.61 โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นในองค์ประกอบยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 104.1 ลดลงจาก 105.9 ในเดือน ธ.ค.61 เนื่องจากผู้ประกอบการกังวลเรื่องเงินบาทแข็งค่า และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความเสี่ยง โดยเฉพาะการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ทำให้การส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัว รวมทั้งต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันและดอกเบี้ย
· นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือน ม.ค.62 อยู่ที่ 81,583 คัน ลดลง 0.59% จากเดือน ม.ค.61 โดยส่งออกลดลงเกือบทุกตลาด เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าชะลอตัวลง ยกเว้นตลาดเอเชีย ตลาดตะวันออกกลาง และตลาดอเมริกาเหนือ โดยการส่งออกดังกล่าวคิดเป็นมูลค่า 40,816.86 ล้านบาท ลดลง 2.85% จากเดือน ม.ค.61
· นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท.ระบุสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าอยู่ในขณะนี้ส่งผลให้ผู้ส่งออกเกิดความอึดอัด และลดความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ และหากเงินบาทปรับลดต่ำกว่า 31 บาท/ดอลลาร์ คงต้องขอนัดหารือกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อหารือถึงแนวทางแก้ไขผลกระทบ