· ราคาพลาเดียมปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางบรรดาบริษัทเหมืองรายใหญ่กว่า 15 แห่งในแอฟริกาใต้ ได้รับรายงานว่าจะมีการประท้วงกันในสัปดาห์หน้าจากกลุ่มคนงาน โดยเป็นผลมาจากการที่บริษัท Sibanye-Stillwater ที่จะลดการใช้เครื่องมือปรับลดแรงงานและค่าจ้าง จึงส่งผลให้ราคาพลาเดียมไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์บริเวณ 1,531 เหรียญ โดยภาพรวมปิดตลาด +2.2% ที่ 1,530.5 เหรียญ และนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว ราคาพลาเดียมปรับขึ้นได้แล้วกว่า 80% จากภาวะอุปทานที่ลดน้อยลง
· นักวิเคราะห์บางราย มองว่า การประท้วงที่จะเกิดขึ้นและคุกคามบริษัทเหมืองในประเทศแอฟริกาใต้จะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมเหมืองแพลทินัมด้วย และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเห็นแรง Short Covering บางส่วนเข้ามาในตลาดด้วย ซึ่งทำให้ราคาแพลทินัมปรับขึ้นไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 20 พ.ย. ที่ 847.5 เหรียญ ก่อนที่จะปิด +0.83% ที่ระดับ 847 เหรียญ
· ราคาทองคำยังคงทรงตัวในขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงจากสัญญาณที่ดีของการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยราคาทองคำตลาดโลกทรงตัวที่ 1,327.72 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิด -3.3 เหรียญ ที่ระดับ 1,329.5 เหรียญ
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ทำการขายทองคำออก 1.18 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 788.33 ตัน
· ราคาซิลเวอร์ปิด -0.14% ที่ระดับ 15.89 เหรียญ
· เมื่อวานนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคงแสดงมุมมองเชิงบวกว่า ข้อตกลงทางการค้าในขั้นตอนสุดท้ายอาจบรรลุผลได้ร่วมกับทางจีน ซึ่งเขาจะมีการจัดประชุมเมื่อมีสัญญาณใดๆเกิดขึ้นเพิ่มเติม
· นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered Bank กล่าวว่า โดยส่วนใหญ่ในปีที่แล้ว การที่ดอลลาร์แข็งค่านั้นมาจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อในฐานะ Safe-Haven และทำให้ราคาทองคำได้รับผลกระทบเชิงลบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ที่เกิดขึ้น ในทางกลับกัน การผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าดูเหมือนจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำมากกว่า เพราะจะหมายถึงการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
· นักวิเคราะห์จาก Kitco Metals ระบุว่า ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากความเชื่อมั่นทางการค้าที่เพิ่มขึ้นและหนุนให้ตลาดหุ้นทำระดับสูง จึงทำให้เราอาจเห็นเม็ดเงินไหลออกจากตลาดทองคำกลับสู่ตลาดหุ้นอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี นักลงทุนให้ความสนใจไปยังถ้อยแถลงประธานเฟดที่จะเกิดขึ้นในวันนี้และวันพรุ่งนี้ เพื่อรอดูว่าจะมีสัญญาณใดๆเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายทางการเงินหรือไม่