• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562

    26 กุมภาพันธ์ 2562 | Economic News
 
 
· เงินปอนด์อังกฤษแข็งค่าทำระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ หลังมีรายงานข่าวว่าอังกฤษอาจพิจารณาเลื่อนเดดไลน์ของ Brexit ออกไป ขณะที่ค่าเงินเยนที่เป็น Safe-haven เริ่มฟื้นจากระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบปี หลังดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่ลดลง

โดยค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.4% บริเวณ 1.3143 ดอลลาร์/ปอนด์ เคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1.3149 ดอลลาร์/ปอนด์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 31 ม.ค.

· ด้านดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.1% บริเวณ 96.329 จุด โดยตลาดกำลังจับตาการรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจในช่วงหลังของสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขอุตสาหกรรมของจีน และตัวเลข GDP ในไตรมสที่ 4/2018 ของสหรัฐฯ

ขณะที่คืนนี้จะมีการรายงานตนต่อสภาคองเกรสของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินประจำปี และมุมมองทีมีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

· ด้านค่าเงินเยน ปรับแข็งค่า 0.25% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ที่บริเวณ 110.80 เยน/ดอลลาร์ เนื่องจากการเข้าซื้อในฐานะ Safe-haven หลังหลังดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงในช่วงตลาดเอเชีย

· ด้านค่าเงินหยวนอ่อนค่า 0.1% ที่บริเวณ 6.6912 หยวน/ดอลลาร์ จากระดับแข็งค่าที่สุดในรอบ 7 เดือนที่ 6.6737 หยวน/ดอลลาร์ ที่ขึ้นไปได้เมื่อวานนี้

· ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.2% บริเวณ 1.1363 ดอลลาร์/ยูโร

· EUR/USD เผชิญความเสี่ยงจากตัวเลขของทั้งยูโรโซนและสหรัฐฯ รวมถึงถ้อยแถลงประธานเฟด

นักวิเคราะห์จาก Daily FX ประเมินว่า ภายในวันนี้ ค่าเงิน EUR/USD อาจถูกกดดันลงมาหลังการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจของทั้งยูโรโซนและสหรัฐฯ นอกจากนี้ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด จะกำหนดขึ้นรายงานตนต่อคณะกรรมการด้านการเงินในสภาคองเกรสหรัฐฯภายในคืนนี้ และในคืนวันศุกร์ นายโพเวลล์ยังมีกำหนดจะขึ้นกล่าวถ้อยแถลงเกี่ยวกับภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯในระยะยาวอีกด้วย

EUR/USD TECHNICAL ANALYSIS

ค่าเงิน EUR/USD มีการปรับแข็งค่าขึ้นมาได้ในช่วงที่ผ่านมา โดยดูเหมือนจะยืนเหนือแนวต้านที่ $1.1358 และยืนเหนือระดับสูงสุดของช่วงปลายเดือน ม.ค. ได้ สำหรับวันนี้ ค่าเงินมีโอกาสแกว่งตัวไปได้ทั้ง 2 ทิศทาง ขึ้นอยู่กับการประกาศตัวเลข PMI ของยูโรโซน แต่จะเป็นการแกว่งตัวภายในกรอบ เนื่องจากตลาดก็ยังคงจับตานายโพเวลล์อีกด้วย

แม้ว่าค่าเงินจะปรับขึ้นมาได้เมื่อเร็วๆนี้ แต่ต้องไม่ลืมว่าในภาพรวมระยะยาวตั้งแต่เดือน เม.ย. ปี 2018 จนถึงปัจจุบัน ค่าเงินได้อ่อนค่าลงมากว่า 8% ดังนั้น จึงเป็นไปได้ยากที่ค่าเงินจะสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ มิหนำซ้ำ ยังมีเรื่องของความตึงเครียดทางการเมืองและการชะลอตัวของเศรษฐกิจเป็นปัจจัยกดดันอีกด้วย

· ค่าเงิน USD/JPY อ่อนค่าลงมาในช่วงตลาดเอเชียวันนี้ ที่บริเวณ $110.75 หลังจากเมื่อวานแข็งขึ้นไปบริเวณ $111.23 โดยการอ่อนค่าลง น่าจะเกิดจากการที่ค่าเงินเยนที่เป็น Safe-haven แข็งค่าจากข่าวที่ว่า อินเดียเปิดฉากการโจมตีทางอากาศใส่ปากีสถาน ซึ่งค่าเงินเยนมีโอกาสที่จะแข็งค่าได้มากกว่านี้ หากความขัดแย้งครั้งนี้ ขยายตัวกลายเป็นสงคราม

สำหรับปัจจัยที่ตลาดกำลังจับตาภายในคืนนี้ คือการขึ้นรายงานตนต่อรัฐสภาของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ซึ่งตลาดคาดว่านายโพเวลล์จะคงแนวทาง “อดทน” ต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อไป และอาจมีการส่งสัญญาณว่าเฟดจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นระยะเวลานานแค่ไหน

· รายงานจากรัฐบาลอินเดีย ระบุว่า เครื่องบินรบของอินเดียได้ทำการโจมตีค่ายของผู้ก่อการร้ายที่ตั้งอยู่เลยเส้นควบคุมชายแดนเข้าไปในพื้นที่ปากีสถาน เมื่อช่วงเช้าวันนี้

ขณะที่รายงานจากกองทัพปากีสถาน ระบุว่า เครื่องบินรบสัญชาติอินเดียได้บินข้ามพรมแดนของปากีสถานเข้ามาในพื้นที่แคชเมียร์ หลังจากที่ปากีสถานมีคำสั่งให้เครื่องบินรบของตนออกบิน แต่ไม่มีรายงานเกี่ยวกับความเสียหายแต่อย่างใด

· รายงานจาก Reuters ระบุว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้เดินทางถึงกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมการประชุมสุดยอดร่วมกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันพุธนี้

ขณะที่นายทรัมป์มีกำหนดการจะเดินทางถึงกรุงฮานายภายในช่วงเย็นวันนี้

รายงานจากทำเนียบขาวระบุว่า ผู้นำทั้งสองมีกำหนดการจะพูดคุยแบบตัวต่อตัวเป็นระยะเวลาสั้นๆภายในวันพุธ จากนั้นก็จะมีการร่วมรับประทานอาหาร โดยจะมีผู้ติดตามอีก 2 คน และล่ามของแต่ละฝ่าย

· นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีกำหนดจะประกาศกีดกันไม่ให้อังกฤษสามารถถอนตัวออกจากอียูแบบ No-deal ได้อย่างเป็นทางการภายในคืนนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้บรรดา ส.ส. ที่ต่อต้านนโยบาย Brexit สามารถชิงอำนาจในการดำเนินนโยบาย Brexit ไปจากเธอได้ และยังเป็นการเปิดโอกาสถึงความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอังกฤษจะพิจารณาขยายระยะเวลาของ Brexit ออกไปเป็นสัปดาห์หรือเดือนได้ จากเดิมที่กำหนดการถอนตัวในวันที่ 29 มี.ค.

· ผลการสำรวจจาก Reuters ระบุว่า กิจกรรมภาคโรงงานจีนประจำเดือนก.พ. คาดว่าจะปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรก

ทั้งนี้ แม้ปริมาณการปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนที่ผ่านมา และสัญญาณของความคืบหน้าในการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน จะช่วยหนุนความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจเอเชีย แต่การที่ตัวเลขกิจกรรมมีแนวโน้มจะออกมาอ่อนแอ จึงเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจจีนยังคงมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวอยู่

· นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด มีกำหนดจะขึ้นรายงานมุมมองของเฟดที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯประจำปี ต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารในวุฒิสภาสหรัฐฯ คืนนี้ เวลาประมาณ 4 ทุ่ม ตามเวลาประเทศไทย

โดยนักวิเคราะห์จาก CIBC Capital Markets มองว่า การเปลี่ยนแปลงแนวทางดำเนินนโยบายของเฟด มาเป็นแบบอดทนรอต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ย น่าจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากบรรดาสมาชิกในสภาคองเกรส เนื่องจากบรรดาส.ส. เริ่มหันมาให้ความสนใจการเลือกตั้งในครั้งต่อไป จึงพยายามป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง

ขณะที่นักวิเคราะห์จาก BofA Merrill Lynch Global Research ระบุว่า ตลาดจะจับตาดูสัญญาณที่เกี่ยวกับโอกาสที่เฟดจะกลับมาขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกครั้ง จากการกล่าวรายงานคืนนี้

· ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากช่วงตลาดก่อนหน้าที่ปรับร่วงลงกว่า 3% จากเรียกร้องของประธานาธิบสหรัฐฯ ที่พยายามกดดันมาตรการกระตุ้นราคาน้ำมันของกลุ่มโอเปก

โดยราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 0.1% หรือ 6 เซนต์ ที่บริเวณ 64.70 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากปรับร่วงลงมากว่า 3.5% เมื่อวานนี้ ทำระดับต่ำสุดของวันที่ 14 ก.พ. ที่ 64.32 เหรียญ/บาร์เรล

ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 0.4% หรือ 22 เซนต์ ที่บริเวณ 55.26 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com