· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงท่ามกลางปริมาณการซื้อขายในระดับปานกลาง จากกลุ่มนักลงทุนที่ตอบรับกับข้อมูลผลประกอบการบริษัท Home Depot ที่ออกมาแย่ และถ้อยแถลงของประธานเฟด โดยดัชนีดาวโจนส์ปิด -33.97 จุด ที่ระดับ 26,057.98 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิด -0.1% ที่ระดับ 2,793.49 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด -0.07% ที่ระดับ 7,549.3 จุด
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับขึ้นจากถ้อยแถลงของประธานเฟด โดยที่ดัชนีนิกเกอิเปิด +0.44% ทางด้านดัชนี Topix เปิด +0.29% และดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.42%
นอกจากนี้ สภาวะทางการเมืองระหว่างการพบกันของผู้นำสหรัฐฯและผู้นำเกาหลีเหนือที่ประเทศเวียดนามในวันนี้ น่าจะยังเป็นเรื่องการหาแนวทางยิตการพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์เพื่อแลกเปลี่ยนกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร
· นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันพรุ่งนี้ระหว่าง 31.25-31.38 บาท/ดอลลาร์ ส่วนเงินบาทเมื่อวานเคลื่อนไหวค่อนข้างแคบ เนื่องจากไร้ปัจจัย ตลาดยังรอฟังถ้อยแถลงของประธานเฟด แถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสว่าจะส่งสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้อย่างไร ทำให้ Movement ในตลาดค่อนข้างจำกัด ยกเว้นเงินปอนด์หลังมีข่าวดีเรื่องนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้เลื่อนการลงมติของรัฐสภาต่อข้อตกลง Brexit ออกไปเป็นวันที่ 12 มี.ค.
· สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือน ม.ค. 62 อยู่ที่ 107.99 ขยายตัว 0.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราการใช้กำลังการผลิต อยู่ที่ 70.47% โดยมีอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลต่อ MPI ได้แก่ ยานยนต์, เครื่องปรับอากาศ และน้ำตาล ที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง
· มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย (TCC CONFIDENCE INDEX : TCC-CI) ประจำเดือน ม.ค.62 อยู่ที่ระดับ 48.0 ลดลงจากเดือนธ.ค.61 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 48.4 ขณะที่มุมมองต่อดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยในอนาคต ช่วง 6 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 49.9 จากเดิมที่ 50.6
· ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไทย มีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ในการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2562 ครั้งที่ 1 ที่มีวงเงินเพิ่มขึ้นสุทธิ 23,018.81 ล้านบาท จากเดิม 1,828,119.18 ล้านบาท มาเป็น1,851,137.99 ล้านบาท
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) รวม 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงตลิ่งชัน - ศาลายา และสถานีเพิ่มเติม 3สถานี ได้แก่ สถานีพระราม 6, สถานีบางกรวย - การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) และสถานีบ้านฉิมพลี ในกรอบวงเงิน 10,202.18 ล้านบาท และ 2.โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต ในกรอบวงเงิน 6,570.40 ล้านบาท
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบขยายเวลาการดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการใหม่และผู้ประกอบการเทคโนโลยีนวัตกรรม (Start-up & Innobiz) ที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.61 ออกไปอีก 2 ปี พร้อมทั้งอนุมัติงบประมาณในการดำเนินมาตรการดังกล่าวเป็นวงเงินไม่เกิน 1,360 ล้านบาท โดยขอรับเงินชดเชยจากรัฐบาลจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 และปีต่อๆ ไปตามภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละปี ซึ่งเป็นไปตามที่กระทรวงการคลังเสนอ