• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 4 มีนาคม 2562

    4 มีนาคม 2562 | SET News

· ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นวันศุกร์ในวันทำการแรกของเดือนมี.ค. และส่งผลให้ภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯช่วงแรกของปีที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ โดยดัชนี S&P500 ปิดปรับขึ้น 0.7% ที่ระดับ 2,803.69 จุด ซึ่งเป็นการยืนเหนือ 2,800 จุดได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ 8 พ.ย. ขณะที่ ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 110.32 จุด ที่ระดับ 26,026.32 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.8% ที่ระดับ 7,595.35 จุด โดยเป็นผลมาจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน จึงช่วยลดกระแสข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐฯและจีนที่ชะลอตัว


· ผู้อำนวยการจาก Instinet กล่าวว่า การที่ดัชนี S&P500 ฝ่า 2,800 จุด ได้ก็ดูจะไปต่อได้อีก 2-3 วัน และนับเป็นครั้งที่ 11 ที่ดัชนี S&P 500 พยายามฝ่า 2,800 จุด นับตั้งแต่เริ่มต้นปีนี้


· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้น เริ่มต้นวันทำการแรกของเดือนมี.ค. ด้วยทิศทางเชิงบวก โดยดัชนี Stoxx 600 ปิด +0.35% และหุ้นเกือบทุกตัวในตลาดต่างก็เคลื่อนไหวแดนบวก


· สัญญาอนุพันธ์หุ้นสหรัฐฯในเช้าวันนี้ ปรับตัวขึ้นจากรายงานที่ว่าสหรัฐฯและจีนใกล้บรรลุข้อตกลงทางการค้าร่วมกันหลังจากที่ประสบปัญหาขึ้นภาษีทางการค้าระหว่างกันเป็นระยะเวลานานเป็นปี ขณะที่ดอลลาร์เช้านี้กลับมาอ่อนค่าลงจากกระแสคาดการณ์ใหม่ที่ว่าเฟดน่าจะยังมีท่าทีผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน โดย E-mini S&P 500 และ E-mini Dow Jones เปิด +0.4%


· รายงานจาก The Wall Street Journal ระบุว่า สหรัฐฯอาจมีการยกเลิกภาษีสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมดในการประชุมสุดยอดผู้นำระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เพื่อลงนามข้อตกลงการค้าที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงปลายเดือนนี้


รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ นายทรัมป์ ได้กล่าวในคืนวันศุกร์ ว่า เขาได้เรียกร้องให้จีนทำการยกเลิกการขึ้นภาษีสินค้าจำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯทั้งหมด เนื่องจาก Trade War มีความคืบหน้าไปในทิศทางที่ดี ขณะที่เขายังคงประกาศเลื่อนแผนการขึ้นภาษี 25% ต่อสินค้าจีน


· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น หลังจากรายงานที่ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกร้องให้รัฐบาลจีนยกเลิกการจัดเก็บภาษีศุลกากรผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรทั้งหมดที่นำเข้าจากสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึง เนื้อวัว เนื้อหมูและอื่นๆ ซึ่งรวมอยู่ในข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน


โดยเช้านี้ ดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.83% ขณะที่ดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 0.77% ด้านดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ที่ระดับ 0.72%


· นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์นี้ไว้ที่ระหว่าง 31.50-32.00 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องจับตากระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่น่าจะเป็นจุดสนใจเพิ่มเติม ได้แก่ ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน สถานการณ์ BREXIT การประชุมประจำปีของสภาประชาชนแห่งชาติของจีน รวมถึงดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.พ. ของสหรัฐฯ และประเทศชั้นนำอื่นๆ


ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร การจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนม.ค. ยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค. และรายงาน Beige Book ของเฟด


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com