หัวหน้านักกลยุทธ์ประจำ JPMorgan ระบุว่า หลังจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของสินทรัพย์ความเสี่ยงนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เหตุการณ์หลายอย่างในเดือนมี.ค.จะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับนักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โอกาสพบกันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯและนาย สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน รวมถึงการประชุมของรัฐบาลจีน ที่อาจส่งสัญญาณเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน อาจมีสัญญาณเกี่ยวกับนโยบาบใหม่ได้
ซึ่งนโยบายเหล่านี้จะมีอิทธิพลต่อการรักษาความเชื่อมั่นที่ช่วยหนุนให้เกิดการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในตลาด
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น 1% ทำระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 3 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากสัญญาณที่ว่าจีนและสหรัฐฯยุติข้อพิพาทด้านภาษีในข้อตกลงทางการค้าที่รุนแรงเกือบตลอดทั้งปี
โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 1.02% ที่ะรดับ 21,822.04 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา
รายงานจาก The Wall Street Journal ระบุว่า สหรัฐฯอาจมีการยกเลิกภาษีสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมดในการประชุมสุดยอดผู้นำระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เพื่อลงนามข้อตกลงการค้าที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงปลายเดือนนี้
รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ นายทรัมป์ ได้กล่าวในคืนวันศุกร์ ว่า เขาได้เรียกร้องให้จีนทำการยกเลิกการขึ้นภาษีสินค้าจำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯทั้งหมด เนื่องจาก Trade War มีความคืบหน้าไปในทิศทางที่ดี ขณะที่เขายังคงประกาศเลื่อนแผนการขึ้นภาษี 25% ต่อสินค้าจีน
ผู้จัดการกองทุนอาวุโสประจำ Dalton Capital Japan ระบุว่า สัญญาณใด ๆ ที่บ่งบอกถึงความคืบหน้าในการเจรจาการค้าจะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นเนื่องจากผลประกอบการถูกกดดันจากอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัว
· กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาท ในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.50-31.95 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 31.72 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ท่ามกลางแรงซื้อดอลลาร์ในตลาดโลก ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทยมูลค่า 7.2 พันล้านบาท และ 2.3 พันล้านบาท ตามลำดับ
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่าการอ่อนค่าของเงินบาทสะท้อนความไม่แน่นอนของแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ ราคาทองคำที่ผันผวน และการปรับสถานะของนักลงทุนหลังจากเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนหน้า ในเดือนกุมภาพันธ์ เงินบาทอ่อนค่าราว 0.9% แต่หากนับตั้งแต่ต้นปี เงินบาทแข็งค่ากว่า 2.3% เกาะกลุ่มสกุลเงินซึ่งแข็งค่าเป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาค ขณะที่การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยยังน่าจะช่วยพยุงค่าเงินบาทไว้ได้ ทั้งนี้ ตลาดจะให้ความสนใจกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนีภาคบริการ และการจ้างงานนอกภาคเกษตร หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์วิจารณ์นโยบายของเฟดและการแข็งค่าที่มากเกินไปของเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ความคืบหน้าประเด็น Brexit รวมถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ท่ามกลางความหวังที่ว่าทั้งสองประเทศใกล้บรรลุข้อตกลง