· ราคาทองคำค่อนข้างทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ปรับลงไปในช่วงตลาดที่แล้ว ท่ามกลางแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวในระดับแข็งค่า รวมถึงมุมมองเชิงบวกที่มีต่อการเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยลดน้อยลงไป
โดยราคาทองคำปรับลดลง 0.1% บริเวณ 1,285.51 เหรียญ หลังจากทำระดับต่ำสุดรายวันที่ 1,282.50 เหรียญ ที่เป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 25 ม.ค.
ด้านราคาสัญญาทองคำทรงตัวที่บริเวณ 1,287.50 เหรียญ
· ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ที่บริเวณ 96.816 จุด ใกล้เคียงกับในช่วงตลาดก่อนหน้า
· นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่า นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นที่จะถอนเงินลงทุนออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำถูกกดดันลงมา จากที่ก่อนหน้าที่ตลาดทองคำมีเงินลงทุนเข้ามาเป็นปริมาณ เนื่องจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้า แต่เนื่องจากปัจจุบัน ตลาดมีความเชื่อมั่นกลับเข้ามามากขึ้น ส่งผลให้เม็ดเงินพากันไหลออกจากตลาดทองคำ และหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯยังคงปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาทองคำก็มีแนวโน้มที่จะปรับร่วงลงอีก
· นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ มองว่า สหรัฐฯและจีนใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างกันและกันได้
· ในขณะที่รัฐบาลจีนปรับลดเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ลงสู่ระดับ 6.0 – 6.5% สอดคล้องกับกระแสคาดการณ์ส่วนใหญ่ เทียบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจปีที่แล้วที่ขยายตัวได้ 6.5% จึงทำให้ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
ซึ่งจะเห็นได้จากตลาดหุ้นเอเชียในวันนี้ ที่มีการปรับตัวลดลงมาเล็กน้อย
· นักวิเคราะห์จาก Monarch Networth Capital ระบุว่า ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นปัจจัยระยะยาว ที่น่าจะช่วยให้มีการเข้าซื้อกลับมาในตลาดทองคำในระยะยาวได้ โดยเฉพาะการเข้าซื้อของบรรดาธนาคารกลางที่น่าจะช่วยหนุนราคาทองคำได้อย่างมาก
· โดยข้อมูลจาก IMF ระบุว่า ธนาคารกลางจีนและอินเดียเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาได้เพิ่มปริมาณการถือครองทองคำขึ้น
· ขณะที่ตลาดจะจับตาการประชุมของอีซีบีที่จะมีขึ้นในคืนวันพฤหัสบดีสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯในคืนวันศุกร์
· นักวิเคราะห์จาก Reuters ระบุว่า ราคาทองคำอาจปรับร่วงลงมาถึงบริเวณ 1,271 เหรียญ เนื่องจากราคาได้หลุดแนวรับที่ระดับ 1,289 เหรียญลงมา
· กองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง 0.76% ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์จนถึงเมื่อวานนี้ ขณะที่ภาพรวมรายปีได้ลดการถือครองลงมา -2%
· ผลสำรวจโดย Kitco พบว่าบรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีมุมมองว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลงในสัปดาห์นี้ ในขณะที่บรรดานักลงทุนยังคงมองว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้นได้
Mark Leibovit บรรณาธิการจาก VR Gold Letter และ Colin Cieszynski หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์จาก SIA Wealth Management มองว่าราคาทองคำสัปดาห์นี้จะปรับตัวลงจากปัจจัยทางฤดูกาล ขณะที่เส้น RSI เริ่มเคลื่อนไหวเข้าทิศทางขาลง โดยความล้มเหลวของการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ก่อน ไม่ได้ช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับขึ้นมาได้เลย ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ก็เริ่มเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้น จึงมองทิศทางราคาทองคำสัปดาห์นี้เป็นขาลง
Neil Mellor นักกลยุทธ์ค่าเงินอาวุโสจาก Bank of New York Mellon มองทองคำสัปดาห์นี้เป็นขาลง เนื่องจากแรงกดดันของการแข็งค่าของดอลลาร์ ประกอบกับเศรษฐกิจโลกยังไม่มีแรงกดดันจากเรื่องของอัตราเงินเฟ้อ
ในขณะที่ Adrian Day ผู้บริหารของ Adrian Day Asset Management มองว่าความเคลื่อนไหวทางการเมืองจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะประเด็นการรายงานตนต่อคณะกรรมการของนายไมเคิล โคเฮน อดีตทนายความของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้กล่าวหาว่า นายทรัมป์ได้ทำผิดกฏหมายในขณะที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยการรายงานต่อคณะกรรมการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น และมองว่าน่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ และอาจนำไปสู่การฟ้องร้องนายทรัมป์ได้ในอนาคต
Daniel Pavilonis โบรกเกอร์สินค้าโภคภันฑ์อาวุโสจาก RJO Futures มองว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นได้สัปดาห์นี้ เนื่องจากการปรับตัวของทองคำยังคงอยู่ในกรอบขาขึ้น และเชื่อว่าราคาน่าจะมีการรีบาวน์ขึ้นมาได้
Richard Baker บรรณาธิการของ Eureka Miner Report มองว่า ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นสัปดาห์นี้ โดยที่ยังคงมุมมองว่าราคาจะขึ้นไประดับ 1,380 เหรียญภายในช่วงวันแรงงาน เนื่องจากยังมีปัจจัยความตึงเครียดทางการเมืองหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็น ความขัดแย้งระหว่างอินเดีย-ปากีสถาน การประชุมสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือที่ล้มเหลว เดดไลน์ของ Brexit และการเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ
· ด้านราคาพลาเดียมปรับลดลง 0.7% บริเวณ 1,521.71 เหรียญ ขณะที่ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.2% บริเวณ 15.10 เหรียญ และราคาแพลทินัมปรับสูงขึ้น 0.2% บริเวณ 836.58 เหรียญ