· ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดปรับลง 13.02 จุด ที่ 25,806.63 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.1% ที่ 2,789.65 จุด และดัชนี Nasdsaq ปิดหลุดลงมาที่ 7,576.36 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดอ่อนตัวลง ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ยังมีความกังวลต่อภาวะการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ควบคู่กับการประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯจากบริษัท Target
· นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯและจีนมีความคืบหน้ามากขึ้นในการเจรจาข้อตกลงการค้าที่อาจยุติปัญหาข้อพิพาทระหว่างกันได้
· ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ตามการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากเหล่านักลงทุนติดตามประเด็นการเจรจาทางการค้าสหรัฐฯและจีน
โดยดัชนี Nikkei ลดลง 0.5% ขณะที่ดัชนี Topix ลดลง 0.34% ด้านดัชนี Kospi เกาหลีใต้ ลดลง 0.29%
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังประเด็นทางการเมื่องต่างๆทั่วโลก โดยดัชนี Stoxx600 ลดลงประมาณ 0.2% ขณะที่ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ ท่ามกลาง
หุ้นรถยนต์และอุตสาหกรรมเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีผลการดำเนินงานต่ำที่สุดเนื่องจากจีนลดเป้าหมายการเติบโตลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี
· นักบริหารเงิน คาดวันนี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 31.70-31.80 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าบาทกลับมาแข็งค่าเนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์จากผู้ส่งออก ขณะที่ค่าเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่น่าสนใจ ได้แก่ การประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน ก.พ.ของสหรัฐ, ดัชนีภาคบริการเดือน ก.พ.และยอดขายบ้านใหม่เดือน ธ.ค.ของอียู, ยอดค้าปลีกเดือน ม.ค.ของจีน
· ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินเงินบาทอาจยังคงเคลื่อนไหวในกรอบที่ค่อนข้างผันผวนต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาจากการที่ยังคงมีอีกหลายตัวแปร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
· สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ยังคงคาดการณ์การส่งออกปี 62 โต 5%
· ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ในกรอบวงเงิน 6,645.03 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) ตามข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมจะกำหนดระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 ปี อย่างไรก็ดี กระทรวงคมนาคมยืนยันว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 65