Thai
Eng
0 2770 7788
ทำไมต้อง MTS
รางวัล
ติดต่อเรา
Login
Toggle navigation
สินค้าและบริการ
ทองคำแท่งและเม็ดเงิน
ตราสารอนุพันธ์
ทองรูปพรรณและทองเก่า
กลุ่มลูกค้า
ลูกค้าสถาบัน
ลูกค้าบุคคล
ร้านค้าทอง
อุตสาหกรรมทองคำและเงิน
โรงรับจำนำ
บริษัทแจกทอง
โปรแกรมการลงทุน
ระบบซื้อขายทองคำแท่ง
ระบบซื้อขายอนุพันธ์
เครื่องมือการซื้อขาย
Pre Trade Tools
Post Trade Tools
มุมนักลงทุน
สถาบันการลงทุนทองคำ
รายการออนไลน์
เทคนิคการลงทุน
อบรมสัมมนา
กิจกรรม/ประชาสัมพันธ์
เริ่มต้นลงทุนกับเรา
ข่าวและบทวิเคราะห์
ข่าว
บทวิเคราะห์
เปิดบัญชี
Support
MTS Help Center
ID Code (รหัสสมาชิก - ถ้ามี)
Name (ชื่อ - นามสกุล)
*
Email Address (อีเมลติดต่อกลับ)
*
Telephone (เบอร์โทรศัพท์)
Subject (หัวข้อ)
*
Description (รายละเอียด)
*
หน้าแรก
ข่าวและบทวิเคราะห์
ข่าว
สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 8 มีนาคม 2562
8 มีนาคม 2562
|
Economic News
View 1215
· ค่าเงินยูโรยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ท่ามกลางแรงกดดันจากสัญญาณเชิงผ่อนคลายทางการเงินจากการประชุมอีซีบีเมื่อคืนนี้ ขณะที่ตลาดกำลังจับตาการประกาศตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯในคืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีความผันผวนตามมาหลังการประกาศตัวเลข
ค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.1196 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากอ่อนค่าลงมา 1% เมื่อคืน ทำระดับต่ำสุดที่ 1.1176 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของเดือน มิ.ย. ปี 2017 สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ ค่าเงินอ่อนค่าลง 1.5%
ค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าลงตามอัตราผลตอบแทนพับธบัตรในยูโรโซน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับร่วงลงแตะระดับต่ำสุดของเดือน ต.ค. ปี 2016
· ตลาดกำลังรอคอยการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯในคืนนี้ โดยจะประกาศเวลาประมาณ 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งการประกาศตัวเลขดังกล่าว อาจยิ่งสร้างแรงกดดันให้กับค่าเงินยูโรได้
· ด้านดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงบริเวณ 97.548 จุด หลังดัชนีปรับแข็งค่าได้ 0.75% เมื่อวานนี้ และทำระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ 97.71 จุด สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ดัชนีมีแนวโน้มปรับแข็งค่าขึ้นได้ 1.2%
· นักวิเคราะห์จาก Daily FX คาดการณ์ว่า ค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบต่อไป เนื่องจากค่าเงินมีความผันผวนที่ต่ำ ขณะที่สัญญาณจาก Indicators ต่างๆ บ่งชี้ว่าค่าเงินจะเคลื่อนไหวในทิศทางขาลงต่อ แต่เนื่องจากตลาดมีความต้องการในค่าเงินยูโรที่ค่อนข้างต่ำ การเคลื่อนไหวจึงมีแนวโน้มที่จะอยู่ในกรอบแคบมาก โดยมองแนวรับระยะสั้นไว้ที่ 1.1230-50 ดอลลาร์/ยูโร ส่วนแนวต้านมองไว้ที่ 1.1375-80 ดอลลาร์/ยูโร
· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าทำระดับต่ำสุดในรอบ 8 วัน เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน หลังตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียปรับร่วงลงจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอเกินคาด ส่งผลให้ตลาดพากันออกจากสินทรัพย์เสี่ยง และเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย
ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์ปรับร่วงกว่า 0.5% บริเวณ 111.015 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 28 ก.พ. ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับร่วงทั่วภูมิภาค การตัวเลขการส่งออกเดือน ก.พ.ของจีนประกาศออกมาอ่อนแอกว่าที่คาด รวมถึงสัญญาณเชิงผ่อนคลายทางการเงินจากการประชุมอีซีบีเมื่อคืนนี้
· ยอดส่งออกจีนชะลอตัวลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ยอดนำเข้าปรับร่วงลต่อติดกันเป็นเดือนที่ 3 จึงยิ่งตอกย้ำถึงสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน แม้รัฐบาลจีนจะมีการออกมาตรการมาช่วยเกื้อหนุนเศรษฐกิจก็ตาม
โดยยอดส่งยอดในเดือน ก.พ. ชะลอตัว 20.7% จากปีก่อน มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.8% เทียบกับยอดส่งออกในเดือน ม.ค. ที่ชะลอตัว 9.1%
ส่วนยอดนำเข้าเดือน ก.พ. ชะลอตัว 5.2% จากปีก่อน มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.4% เทียบกับยอดส่งออกในเดือน ม.ค. ที่ชะลอตัว 1.5%
ขณะที่ยอดดุลการค้าเดือน ก.พ. ของจีนก็อ่อนแอลงมากกว่าที่คาด โดยประกาศออกมาที่ระดับ 4.12 พันล้านเหรียญ น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 26.38 พันล้านเหรียญ เทียบกับดุลการค้าเดือน ม.ค. ที่ประกาศออกมาที่ 39.16 พันล้านเหรียญ
การประกาศตัวเลขการค้าสำคัญของจีน เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐสภาจีนกำลังมีการประชุมครั้งสำคัญ ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และจะดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงวันศุกร์ที่ 15 มี.ค.
· ยอดเกินดุลการค้าของจีนที่มีร่วมกับสหรัฐฯปรับลดลงมาที่ระดับ 1.472 หมื่นล้านเหรียญในเดือน ก.พ.จากเดิมในเดือน ม.ค. ที่ 2.73 หมื่นล้านเหรียญ ขณะที่ยอดรวมของทั้ง 2 เดือนอยู่ที่ระดับ 4.21 หมื่นล้านเหรียญ
· บรรดา CEOs จาก Deutsche Bank และ Commerzbank ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ในเยอรมนี กำลังมีการเจรจาที่อาจเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในรวมบริษัทเข้าด้วยกัน ซึ่งไม่กี่วันก่อนหน้านี้ บรรดา CEOs ของทั้ง 2 ธนาคารก็มีการเจรจากันอย่างเข้มข้น แต่ยังปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในกรณีดังกล่าวต่อสื่อ
ทั้งนี้ หุ้น Deutsche Bank ถูกคาดการณ์ว่าจะเปิดตลาดวันนี้ในแดนบวก 0.1% ขณะที่หุ้น Commerzbank ถูกคาดว่าจะเปิด +0.2%
· การขยายตัวของตัวเลขจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯมีแนวโน้มจะชะลอตัวลงแตะระดับต่ำสุดในเดือนก.พ. สอดคล้องกับข้อมูล 2 เดือนก่อนหน้าท่ี่ชะลอตัวลง ที่ดูจะเริ่มเป็นปัจจัยกดดันตลาดแรงงาน แต่ภาพรวมการจ้างงานน่าจะยังแข็งแกร่งเพียงพอที่จุหนุนให้อัตราคนว่างงานอยู่ต่ำกว่าระดับ 4%
ทั้งนี้ Non-Farm Payrolls ของสหรัฐฯในคืนนี้ถูกคาดว่าจะมีการจ้างานเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่ง และอาจเป็นการขยายตัวได้น้อยที่สุดนับตั้งแต่ก.ย.ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี การปรับตัวลงดังกล่าวน่าจะเป็นการชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากบรรดานักเศรษฐศาสตร์ เชื่อว่า น่าจะเห็นการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นได้ เพราะผลกระทบดังกล่าวที่เกิดขึ้นมาจากแรงเทขายในตลาดหุ้น และการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯในช่วงปลายปีที่แล้ว ขณะที่ภาคครัวเรือนชะลอตัวลงเป็นประวัติการณ์บริเวณ 3.8 ล้านล้านเหรียญ
· ผู้ว่าการธนาคารกลางฝรั่งเศส ระบุว่า ธนาคารกลางฝรั่งเศสถูกคาดว่าน่าจะมีการปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจฝรั่งเศสจะมีการฟืั้นตัวแต่ภาพรวมเศรษฐกิจในยูโรโวฯก็ประสบภาวะชะลอตัวลง
· สภาล่างของรัฐสภาอังกฤษมีกำหนดการจะร่วมลงมติในนโยบายเกี่ยวกับ Brexit หลายข้อด้วยกันภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งการลงมติแรกจะเกี่ยวกับการลงมติสนับสนุนนโยบาย Brexit ของนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ หากล้มเหลว การลงมติรอบต่อไปจะเกี่ยวกับการป้องกันไม่ให้อังกฤษถอนตัวออกจากอียูแบบ No-deal และตามมาด้วยการโหวตตัดสินว่าจะขยายระยะเวลาของ Brexit ออกไปจากเดิมในปลายเดือน มี.ค. นี้หรือไม่
· ข้อมูลยอดคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีปรับลงเกินคาดในเดือนม.ค. แตะ 2.6% ท่ามกลางสัญญาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจเยอรมนีที่ดูทีท่าว่าจะชะลอตัวลงในช่วงเริ่มต้นปี 2019
· นายหวัง อี้ หัวหน้าสภารัฐกิจแห่งประเทศจีน กล่าวว่า รัฐบาลจีนให้การสนับสนุน Huawei ในการยื่นฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมชื่นชมที่ Huawei ใช้ “อาวุธทางกฏหมาย” และไม่ยอมอยู่นิ่งเฉยกับการถูกเอาเปรียบ
โดยเมื่อไม่นานมานี้ บริษัท Huawei Technologies Co Ltd ได้ยื่นฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐฯ ในกรณีที่รัฐบาลออกกฏหมายห้ามไม่ให้หน่วยงานรัฐสามารถดำเนินธุรกิจร่วมกับบริษัทที่ใช้อุปกรณ์ของ Huawei เป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบ
การยื่นฟ้องร้องครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งประเด็นความขัดแย้งระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังพยายามเจรจาหาจุดยืนร่วมกัน
· นักวิเคราะห์จาก DailyFX ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบชะลอตัวลง และมีการเคลื่อนำไหวแบบ Evening Star ขณะที่ RSI เคลื่อนไหวแดนลบ โดยหากราคาปิดต่ำกว่าแนวรับ 55.37 - 55.75 เหรียญ/บาร์เรล มีโอกาสเห็นราคาปรับตัวลงต่อ แต่หากราคาฝ่าแนว 50.15 - 51.33 เหรียญ/บาร์เรลไปได้ ก็มีโอกาสเห็นราคากลับมาทดสอบแนวต้าน 57.96 - 59.05 เหรียญ/บาร์เรล และอาจเห็นราคากลับทำ High 62.31 เหรียญ/บาร์เรลได้.
· ราคาน้ำมันดิบปรับร่วงกว่า 1% ในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังอีซีบีส่งสัญญาณเตือนถึงแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวเมื่อคืนนี้ และการที่จีนประกาศยอดส่งออกและนำเข้าออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดในเดือน ก.พ.
โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 1.3% บริเวณ 65.42 เหรียญ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 1.1% บริเวณ 56.03 เหรียญ/บาร์เรล
ธนาคารเพื่อการลงทุน Jefferies ระบุว่า ปริมาณการผลิตของสหรัฐฯที่อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ เกิดขึ้นจากปริมาณการขุดเจาะที่ขยายตัว โดยเฉพาะจากการเข้าลงทุนของบริษัทรายใหญ่อย่าง Exxon Mobil และ Chevron
Related
1 มีนาคม 2568
[สาระน่ารู้] คำศัพท์พบบ่อยในข่าวทองคำ
View 81 | Economic News
27 กุมภาพันธ์ 2568
[สาระน่ารู้] "Non Farm Payrolls (NFP)" คืออะไร?
View 498 | Economic News
25 กุมภาพันธ์ 2568
[สาระน่ารู้] Crude Oil Inventories คืออะไร ?
View 84 | Economic News
25 กุมภาพันธ์ 2568
Leverage ในตลาดอนุพันธ์ คืออะไร?
View 84 | Economic News
24 กุมภาพันธ์ 2568
[ สายเทรดต้องรู้ ] มือใหม่หัดดู "กราฟแท่งเทียน"
View 101 | Economic News
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail:
support@mtsgoldgroup.com