Thai
Eng
0 2770 7788
ทำไมต้อง MTS
รางวัล
ติดต่อเรา
Login
Toggle navigation
สินค้าและบริการ
ทองคำแท่งและเม็ดเงิน
ตราสารอนุพันธ์
ทองรูปพรรณและทองเก่า
กลุ่มลูกค้า
ลูกค้าสถาบัน
ลูกค้าบุคคล
ร้านค้าทอง
อุตสาหกรรมทองคำและเงิน
โรงรับจำนำ
บริษัทแจกทอง
โปรแกรมการลงทุน
ระบบซื้อขายทองคำแท่ง
ระบบซื้อขายอนุพันธ์
เครื่องมือการซื้อขาย
Pre Trade Tools
Post Trade Tools
มุมนักลงทุน
สถาบันการลงทุนทองคำ
รายการออนไลน์
เทคนิคการลงทุน
อบรมสัมมนา
กิจกรรม/ประชาสัมพันธ์
เริ่มต้นลงทุนกับเรา
ข่าวและบทวิเคราะห์
ข่าว
บทวิเคราะห์
เปิดบัญชี
Support
MTS Help Center
ID Code (รหัสสมาชิก - ถ้ามี)
Name (ชื่อ - นามสกุล)
*
Email Address (อีเมลติดต่อกลับ)
*
Telephone (เบอร์โทรศัพท์)
Subject (หัวข้อ)
*
Description (รายละเอียด)
*
หน้าแรก
ข่าวและบทวิเคราะห์
ข่าว
สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 8 มีนาคม 2562
11 มีนาคม 2562
|
Economic News
View 1046
· ข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ เดือนก.พ. ออกมาแย่ลง หลังจากที่เริ่มต้นปีมาอย่างไม่ค่อยสดใสนัก โดยข้อมูลจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯมีการจ้างงานขึ้นเพียง 20,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลงแตะ 3.8%
อย่างไรก็ดี ข้อมูลจ้างงานล่าสุดถือว่าแย่ที่สุดนับตั้งแต่ก.ย. 2017 อันเป็นผลมาจากพายุเฮอริเคน 2 ลูกที่ผ่านมาที่ดูจะส่งผลกระทบต่อภาคแรงงาน และชดเชยมุมมองเชิงบวกจากค่าแรงที่ปรับขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง
· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หลังข้อมูลจ้างงานออกมาแย่กว่าคาด แม้ว่าข้อมูลอัตราคนว่างงานและค่าแรงจะปรับตัวขึ้นเกินคาดก็ตาม ขณะที่ค่าเงินสวีเดนร่วงลงทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดรอบ 16 ปี หลังจากที่ธนาคารกลางมีแนวโน้มจะปรับลดมุมมองทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับ ธนาคารกลางยุโรปและแคนาดา
ทั้งนี้ ในช่วงปลายตลาดค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่ากลับขึ้นมาได้หลังจากที่อีซีบี และธนาคารกลางส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะทำการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการเข้าซื้อสินทรัพย์หรือแม้แต่การปรับลดดอกเบี้ยเพื่อหนุนเศรษฐกิจในประเทศของตน
· ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.34% มาที่ 97.34 จุด หลังจากที่วันพฤหัสบดีไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 14 ธ.ค. บริเวณ 97.7 จุด
· ทางด้านค่าเงินดอลลาร์ภาพรวมสัปดาห์ที่แล้วปรับแข็งค่าขึ้น 0.85% ท่ามกลางแรงเทขายในยูโรทีตอบรับกับประชุมอีซีบีรอบลาสุดที่ดูจะสนับสนุนการกู้ยืมในภาคธนาคาร และเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยไปในปี 2020
· ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นได้ 0.43% ที่ระดับ 1.124 ดอลลาร์/ยูโร โดยรีบาวน์กลับจากระดับอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 20 เดือน ที่ระดับ 1.11765 ดอลลาร์/ยูโรเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยภาพรวมสัปดาห์ที่แล้วอ่อนค่าลงไปประมาณ 1.17% ถือเป็นระดับการปรับลงรายสัปดาห์ที่มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.ย.
· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯร่วงลงตอบรับข้อมูลจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯ แม้ว่าค่าแรงรายเดือนจะปรับตัวขึ้นก็ตาม โดยอัตราผลตอบแทนอายุ 10 ปี ปรับลงมาแถว 2.628% หลังจากลงมาทำระดับต่ำสุดบริเวณ 2.607% ในช่วงประกาศรายงานดังกล่าว
· นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด กล่าวให้สัมภาษณ์รายการ 60 Minutes ของสถานี CBS โดยแสดงความคิดเห็นว่า กฎระเบียบค่อนข้างชัดเจนในการที่เขาต้องดำรงตามแหน่ง 4 ปี และเขาก็จะยืนหยัดทำตามหน้าที่ในช่วงเวลานี้ และไม่คิดว่านายทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะสามารถไล่เขาออกได้
· รายงานจาก CNBC ระบุว่า แผนงบประมาณของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ 3% ในอีก 5 ปีข้างห้า แม้ว่าจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม โดยรายงานของทำเนียบขาว ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯมีการพัฒนาภายใต้นโยบายบริหารของทีมงานทรัมป์ และคาดว่าปีนี้จีดีพีจะเติบโตได้ 3.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ปี 2020 จะโตได้ 3.1% ขณะที่ปี 2024 ก็จะยังขยายตัวได้ราว 3%
อย่างไรก็ดี คาดการณ์ของทางทำเนียบขาวดูจะสูงกว่าที่หน่วยงานภายนอกประเมินไว้ โดย CBO คาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้เพียง 2.7% และปีหน้ามีโอกาสเห็นการเติบโตปรับตัวลงต่อ 1.9% และมีแนวโน้มจะขยายตัวได้ 1.6-1.8% ในช่วงปี 2029 สอดคล้องกับคาดการณ์ของเฟดที่ มองว่าระยะยาวเศรษฐกิจสหรัฐฯจะขยายตัวได้ประมาณ 2%
· นายเจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษ ระบุว่า ข้อตกลง Brexit อาจเผชิญกับความล้มเหลวอีกครั้ง หากสมาชิกรัฐสภาอังกฤษยังคงปฏิเสธต่อร่างข้อตกลง หลังจากที่ผู้นำเสียงข้างมากในรัฐสภายังคงกล่าวเตือน นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษว่าอาจกำลังเผชิญกับเสียงต่อต้านอีกครั้ง
และนับจากนี้เหลือเวลาเพียง 19 วันเท่านั้น ก่อนที่อังกฤษจะออกจากอียูอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มี.ค. และนางเมย์ก็ยังไม่สามารถทำให้ข้อตกลงประสบความสำเร็จได้ ขณะที่รัฐสภาอังกฤษมีมติจะลงคะแนนโหวตกันอีกครั้งว่าข้อตกลงที่นำเสนอจะผ่านหรือไม่ในคืนวันอังคารนี้ และหากล้มเหลวอีก น่าจะเห็นนางเมย์ ทำการขอเลื่อน Brexit ออกไปก่อน ขณะที่หลายฝ่ายมองว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเผชิญกับความผันผวนได้ หากออกจากอียูโดยปราศจากข้อตกลงใดๆ
· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับลงหลังข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯออกมาแย่ลงอย่างมากในเดือนก.พ. นอกจากนี้ ยังถูกกดดันจากยอดนำเขาและส่งออกจีนในเดือนก.พ. ที่ออกมาแย่ ประกอบกับประชุมอีซีบีที่มีการหั่นแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับลง 66 เซนต์ คิดเป็น -1.2% ที่ระดับ 56 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ช่วงต้นตลาดปรับตัวลงไปกว่า 3% ทำระดับต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ที่ 54.52 เหรียญ/บาร์เรล และสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลงประมาณ 0.5%
น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับลง 54 เซนต์ คิดเป็น -1% ที่ระดับ 65.76 เหรียญ/บาร์เรล โดยดีดกลับจากที่ไปทำระดับต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ บริเวณ 64.02 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ภาพรวมรายสัปดาห์ร่วงลงไปประมาณ 1%
· รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานแห่งซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่กลุ่มโอเปกจะมีมติเปลี่ยนแปลงนโยบายการปรับลดกำลังผลิตในการประชุมเดือน เม.ย. นี้ และเชื่อว่าจะมีอุปสงค์ในน้ำมันที่แข็งแกร่งจากทั้งสหรัฐฯและจีนตลอดปี 2019
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีฯระบุว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายใดๆในการประชุมเดือน เม.ย. ก็คงเปรียบเสมือนการโยนหินตามทางเท่านั้น และการเปลี่ยนแปลงจริงๆน่าจะเกิดขึ้นในเดือน มิ.ย. ซึ่งก็ต้องดูว่า ณ ตอนนั้นตลาดน้ำมันจะเป็นเช่นไรอีกที
Related
1 มีนาคม 2568
[สาระน่ารู้] คำศัพท์พบบ่อยในข่าวทองคำ
View 81 | Economic News
27 กุมภาพันธ์ 2568
[สาระน่ารู้] "Non Farm Payrolls (NFP)" คืออะไร?
View 498 | Economic News
25 กุมภาพันธ์ 2568
[สาระน่ารู้] Crude Oil Inventories คืออะไร ?
View 84 | Economic News
25 กุมภาพันธ์ 2568
Leverage ในตลาดอนุพันธ์ คืออะไร?
View 84 | Economic News
24 กุมภาพันธ์ 2568
[ สายเทรดต้องรู้ ] มือใหม่หัดดู "กราฟแท่งเทียน"
View 101 | Economic News
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail:
support@mtsgoldgroup.com