· ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดรอบเกือบ 2 สัปดาห์ ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังสะท้อนมุมมองว่าเฟดจะต้องอดทนรอต่อไปก่อนในการดำเนินนโยบายใดๆ ประกอบกับราคาทองคำมีแรงหนุนจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลงBrexit
· เมื่อคืนนี้ราคาทองคำตลาดโลกขยับขึ้น 0.6% ที่ระดับ 1,310.03 เหรียญ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 1 มี.ค. ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดปรับขึ้น 11.2 เหรียญ ที่ระดับ 1,309.3 เหรียญ
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 772.46 ตัน
· นักกลยุทธ์ฝ่ายการตลาดจาก RJO Futures กล่าวว่า ข้อมูล PPI ที่ออกมาแย่กว่าที่คาด ประกอบกับข่าว Brexit จึงช่วยหนุนราคาทองคำ โดยดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ปรับขึ้น 1.9% เมื่อเทียบรายปีเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการขยายตัวน้อยที่สุดนับตั้งแต่ มิ.ย. 2017 โดยเหล่าเทรดเดอร์มีการเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะค่อนข้างมีท่าทีผ่อนคลายทางการเงินต่อไป
· ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อ และข้อมูล PPI ที่ออกมาน่าผิดหวังในสัปดาห์นี้ น่าจะทำให้การประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าระหว่าง 19-20 มี.ค. เฟดมีท่าทีที่จะคงดอกเบี้ย และกดดันดอลลาร์ แต่เพิ่มความต้องการถือครองทองคำได้
· ราคาทองคำกลับขึ้นเหนือระดับสำคัญทางจิตวิทยา 1,300 เหรียญ โดยได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯในเรื่องเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงตั้งแต่วันอังคาร ประกอบกับข้อมูลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคบางส่วน มองว่า ในทางเทคนิคราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้จากภาวะความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอังกฤษ หลังจากที่นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษยังคงพ่ายแพ้ต่อเสียงสนับสนุนในสภาต่อข้อตกลง Brexit ของเธอ ขณะที่ปัญหาทางการเมืองของอังกฤษดิ่งลงลึกมากขึ้นก่อนที่อังกฤษจะออกจากอียูในวันที่ 29 มี.ค.นี้
· นักวิเคราะห์จาก Forex.com กล่าวว่า ในทางเทคนิคราคาทองคำกำลังกลับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,313 เหรียญ ซึ่งเคยเป็นแนวรับในอดีต แต่การที่ทองคำยังยืนเหนือ 1,300 เหรียญ ก็มีโอกาสเห็นแรงเทขายกลับเข้ามาบริเวณดังกล่าวได้เช่นกัน
· ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลกก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนการเข้าซื้อทองคำในฐานะ Safe-Haven และจะเห็นได้จากความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุนจากกองทุน SPDR ที่ภาพรวมมีการเข้าซื้อทองติดต่อกันไปสองวันทำการในช่วงต้นสัปดาห์