โดยราคาทองคำปรับตัวลง 0.4% บริเวณ 1,303.87 เหรียญ หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดของวันที่ 1 มี.ค. ที่ 1,311.07 เหรียญ
ด้านราคาสัญญาทองคำ COMEX ปรับลดลง 0.4% บริเวณ 1,304.20 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ระบุว่า ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในตลาดเอเชียวันนี้ คือค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ได้ปรับอ่อนค่าลงติดต่อกันถึง 4 ช่วงตลาดก่อนหน้านี้ การเคลื่อนไหวในวันนี้จึงเป็นการรีบาวน์กลับขึ้นมาบางส่วน
ขณะที่ปริมาณความต้องการในทองคำที่เป็น Safe-haven เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากกรณี Brexit ได้ปรับลดลง หลังรัฐสภาอังกฤษมีมติไม่ให้อังกฤษถอนตัวออกจากอียูโดยปราศจากข้อตกลง
ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่ารัฐสภาอังกฤษจะมติให้ขยายระยะเวลาของ Brexit ออกไปภายในการลงมติคืนนี้
· นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่า ณ ตอนนี้ตลาดกำลังจับตาดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นระหว่างอังกฤษกับอียู โดยหากอังกฤษมีมติขยายระยะเวลาออกไป ราคาทองคำอาจได้รับผลกระทบปรับลดลงมา และจะปรับลงได้อย่างมาก หากมีสัญญาณว่ารัฐสภาอังกฤษสามารถหาข้อตกลงบางอย่างร่วมกันได้
· ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า 0.1% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ หลังจากปรับร่วงลงอย่างหนักที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ในช่วงตลาดก่อนหน้า เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ประกาศออกมาอ่อนแอ
· ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯขยายตัวได้อย่างจำกัดเป็นครั้งแรกหลังจากที่ชะลอตัวติดต่อกัน 3 เดือน ส่งผลให้ภาพรวมรายปีขยาตัวได้ช้าที่สุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง จึงอาจหนุนให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยต่อไป
· อัตราการขยายตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรมในประเทศจีนขยายตัวได้เพียง 5.3% ในช่วงเดือน 2 เดือนแรกของปี 2019 ซึ่งเป็นอัตราที่ช้าที่สุดในรอบกว่า 17 ปี
· ตลาดกำลังจับตาการประชุมของบีโอเจที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า เนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลกมีสัญญาณไปทางผ่อนคลายทางการเงิน หากผลการประชุมออกมาพบว่าบีโอเจคล้อยตามสัญญาณดังกล่าว ก็อาจเห็นเงินเยนอ่อนค่าลง ขณะที่ราคาทองคำก็จะปรับตัวลงเช่นกัน
· ราคาพลาเดียมปรับลดลง 0.9% บริเวณ 1,542.62 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินั่มปรับลดลง 0.6% บริเวณ 832.79 เหรียญ
· ราคาซิลเวอร์ปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ช่วงตลสด โดยปรับลดลง 0.5% บริเวณ 15.37 เหรียญ