• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 18 มีนาคม 2562

    18 มีนาคม 2562 | Economic News
 
· ค่าเงินดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวในแดนอ่อนค่า หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ประกาศออกมาอ่อนแอ ได้กดดันให้ค่าเงินอ่อนค่าลงจากกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน หลังมีกระแสคาดการณ์ว่า อังกฤษอาจชะลอการถอนตัวออกจากไปอียูออกไปก่อน

โดยดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงวันนี้ประมาณ 0.1% บริเวณ 96.481 จุด หลังจากปิดตลาดสัปดาห์ก่อนร่วงลงมา 0.81% ซึ่งเป็นอัตราที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค.

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับลงมาที่บริเวณ 2.580% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. ขณะที่ Fed funds futures คาดโอกาส 40% ที่เฟดจะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงภายในปีนี้ เทียบกับโอกาสเกือบ 0% ที่มองไว้ในช่วงต้นเดือนนี้

· นักวิเคราะห์จาก Nikko Securities ระบุว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปีเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 2.6% เป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อต้นปีนี้ หากอัตราผลตอบแทนยังทรงตัวอยู่ในระดับดังกล่าวเป็นระยะเวลานาน ก็จะถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ม.ค. ปี 2018 ที่อัตราตอบแทนเริ่มปรับขึ้นตามกระแสคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจะกลับมาตามอัตราดอกเบี้ยที่อาจถูกปรับลดลงไป ซึ่งอัตราตอบแทนในปัจจุบันปรับตัวลงเนื่องจากสัญญาณของการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ตลาดจะจับตาผลการประชุมของเฟดในคืนวันพุธนี้ซึ่งมีสัญญาณว่าเฟดจะคงนโยบายต่อไปภายในอนาคตอันใก,นี้ และมีแนวโน้มที่จะเปิดเผยแผนเกี่ยวกับการปรับลดพอร์ตงบดุลของปีนี้ ระหว่างการประชุมครั้งที่จะถึงนี้เวยเช่นกัน

· นักวิเคราะห์จาก Sumitomo Mitsui Trust Bank ระบุว่า ตลาดให้ความสนใจว่าเฟดจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินมากเพียงใด แต่อาจมากไปนิดจนทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรัยลดอัตราดอกเบี้ย ตรงกันข้ามกับ Dot plot ของเฟด ที่จะบ่งชี้ว่าบอร์ดบริหารของเฟดยังคงมองว่ามีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้

· ด้านค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นมาจากเมื่อสัปดาห์ก่อนได้ 0.86% วันนี้ค่อนข้างทรงตัวบริเวณ 1.1336 ดอลลาร์/ยูโร

สำหรับค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยนทรงตัวที่บริเวณ 111.50 เยน/ดอลลาร์

· FXStreet มองว่า ค่าเงินเยนยังคงทรรงตัวและมีการแข็งค่ากลับมาทดสอบ 111.75 เยน/ดอลลาร์ ท่ามกลางภาวะ Risk-on ในช่วงตลาดหุ้นเอเชีย และข้อมูลยอดการค้าญี่ปุ่น ขณะที่ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า

ขณะที่ภาพรวมค่าเงินเยนดูจะเข้าสู่สภาวะสะสมพลังหลังจากไปทำระดับสูงสุดในรอบปีที่ 112.13 เยน/ดอลลาร์

· ค่าเงินยูโรเริ่มขึ้นทดสอบแนวต้านของเทรนขาลงที่วิ่งมาตั้งแต่เดือน ม.ค. ปี 2018 ซึ่งเส้นแนวต้านดังกล่าว ถือว่ามีความแข็งแกร่ง สังเกตุได้จากการขึ้นทดสอบและไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าวติดต่อกัน ซึ่งหากการทดสอบวันนี้ ค่าเงินไม่สามารถผ่านไปได้อีกครั้ง ก็จะทำให้ค่าเงินปรับอ่อนค่าลง แต่ในทางกลับกัน ถ้าค่าเงินสามารถผ่านขึ้นไปได้ จะเปิดโอกาสให้ระยะกลางมีโอกาสกลับตัวเป็นขึ้นได้

· ยอดส่งออกของญี่ปุ่นในเดือน ก.พ. ชะลอตัวลงติดต่อเป็นเดือนที่ 3 ท่ามกลางผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับประเด็น Brexit ทำให้ตลาดมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง

โดยภาวะทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นมีภาวะที่กำลังเผชิญความเสี่ยงของการชะลอตัวลงเหมือนกันเศรษฐกิจทั่วโลก จึงทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือบีโอเจอาจมีการออกนโยบายเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น

ทั้งนี้ ยอดส่งออกของญี่ปุ่นเดือน ก.พ. ชะลอตัวลง -1.2% ในภาพรวมรายปี มากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะชะลอตัวลง -0.9% เทียบเดือน ม.ค. ที่ยอดส่งออกชะลอตัว -8.4% จึงทำให้ภาพรวมชะลอตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มรถยนต์ โลหะ และเครื่องมือผลิตเซมิคอนดักเตอร์

· ที่ปรึกษาคนสนิทของนายวลาดิเมีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและรัสเซียในปัจจุบัน ดูจะเป็นการพยายามข่มขวัญแต่ละฝ่ายมากกว่าที่จะพยายามพัฒนาความสัมพันธ์อย่างจริงๆจังๆ และความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศก็จะไม่มีวันคืบหน้าหากนโยบายคว่ำบาตรรัสเซียของสหรับฯยังคงมีผลบังคับใช้อยู่

· รายงานจาก AFP ระบุว่า ดูจะยังไม่เห็นโอกาสที่เฟดจะทำการขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ นับตั้งแต่ที่สมาชิกทั้งหมดดูเหมือนจะพร้อมใจกันมีท่าทีรอดูการขึ้นดอกเบี้ยในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

สำหรับภาวะเงินเฟ้อดูจะชะลอตัวท่ามกลางภาวะการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงในปีนี้ ด้านนักเศรษฐศาสตร์ ระบุว่า บรรดาสมาชิกเฟดมีแนวโน้มจะลดจำนวนการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ลงเหลือเพียงครั้งเดียว จากเดือนธ.ค. ที่คาดการณ์ไว้ที่ 2 ครั้ง โดยต้องรอถ้อยแถลงการตัดสินใจของ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดที่จะประกาศผลการประชุมในคืนวันพุธนี้ โดยปัจจุบันเฟดมีกรอบดอกเบี้ยที่ระดับ 2.25-2.50% ท่ามกลางตลาดที่ยังไม่คิดว่าจะเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ได้ ขณะที่นักลงทุนมองว่ามีโอกาสที่จะเห็นเฟดเริ่มต้นปรับลดดอกเบี้ยในอีก 10 เดือนข้างหน้า

· FXStreet มองว่า การปรับลดน้ำมันจะทำให้ระดับราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะ 60 เหรียญ/บาร์เรล โดยน้ำมันดิบ WTI วันนี้ในตลาดเอเชียเคลื่อนไหวแถว 58.50 เหรียญ/บาร์เรล และมองว่าสินค้าน้ำมันน่าจะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ปรับตัวลง ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ยังพอใจที่จะปรับลดอุปทานน้ำมันในตลาด

· รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานแห่งรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียจะสามารถบรรลุเป้าหมายของการปรับกำลังการผลิตที่ตกลงร่วมกับกลุ่มโอเปกได้ภายในสิ้นเดือน มี.ค. หรือไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ทั้งนี้ เป้าหมายการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกร่วมกับประเทศพันธมิตร เช่น รัสเซีย อยู่ที่ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งสมาชิกกลุ่มทั้ง 11 ประเทศ ยกเว้น อิหร่าน เวเนซุเอลา และลิเบีย จำเป็นปรับลดกำลังผลิตลง 800,000 บาร์เรล/วัน

· ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่กดดันปริมาณอุปสงค์ในน้ำมัน แต่มีแรงหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก ร่วมนโยบายคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่านและเวเนซุเอลาของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับสูงขึ้น 8 เซนต์จากระดับปิดตลาด ที่บริเวณ 67.24 เหรียญ/บาร์เรล ใกล้ระดับสูงสุดของปี 2019 ที่ 68.14 เหรียญ/บาร์เรล

ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับลง 9 เซนต์จากระดับปิดตลาด ที่บริเวณ 58.43 เหรียญ/บาร์เรล แต่ยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดของปี 2019 ที่ 58.95 เหรียญ/บาร์เรล


Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com