
ปัจจัยที่ตลาดจะจับตาจากการถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ภายหลังการประชุมเฟดสัปดาห์นี้ คือ Dot plot และการปรับลดพอร์ตงบดุล
ส่วนผลการประชุมสัปดาห์นี้ เป็นที่คาดการณ์กันว่า เฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.25-2.50% ดังเดิม รวมถึงคงท่าที “อดทน” ต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
สัญญาณสำคัญที่ตลาดจะจับตาคือ บรรดาสมาชิกเฟดจะมีการปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยลงมาสอดคล้องกับ Dot plot ของเฟดเองหรือไม่ ท่ามกลางท่าที “อดทน” ต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งคือเฟดจะมีแนวโน้มปรับลดพอร์ตงบดุลมูลค่า 3.8 ล้านล้านเหรียญของเฟดลงอย่างไร
นักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets มองว่า การประชุมเฟดครั้งนี้ น่าจะมีข้อมูลใหม่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
ทั้งนี้ บรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์กันว่า เฟดจะไม่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้แม้แต่ครั้งเดียว รวมถึงอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงภายในปี 2020 ซึ่งหากสัญญาณที่เฟดส่งออกมาหลังมาหลังการประชุมครั้งนี้ขัดแย้งกับคาดการณ์ของตลาด ก็มีโอกาสจะเห็นตลาดปรับร่วงลง รวมถึงโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
สัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยจากเฟด
เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา เฟดได้เปลี่ยนท่าทีจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในทุกๆไตรมาส มาเป็นการ “อดทน” ต่อการขึ้นดอกเบี้ย และทางประธานเฟดยังมีการส่งสัญญาณว่าอาจหยุดการปรับลดพอร์ตงบดุลลงภายในปีนี้ ซึ่งการประชุมเฟดในวันที่ 19-20 มี.ค. นี้ ก็น่าจะมีสัญญาณออกมาแบบเดิม
ทางด้านบรรดาสมาชิกเฟด เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ก็ต่างไม่มีการให้ข้อมูลที่ชัดเจนแต่อย่างใด
โดยทางด้านนายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน ได้เคยกล่าวว่า การส่งสัญญาณ “อดทน” ต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หมายความว่าเฟดจะไม่ส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากนัก เพื่อรอดูท่าทีของเศรษฐกิจว่าจะดำเนินไปในทิศทางใด
ท่ามกลางภาวะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงชะลอตัว เฟดจึงมองว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งนักลงทุนก็ไม่คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจจีนและยุโรปที่ชะลอตัว ก็อาจเป็นอีกปัจจัยที่กดดันเศรษฐกิจสหรัฐฯ
พอร์ตงบดุล
ในขณะเดียวกัน เฟดก็ได้เผชิญกับแรงกดดันของตลาด ให้เร่งเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการปรับลดพอร์ตงบดุลสำหรับปีนี้
ซึ่งทางนายจอห์น วิลเลี่ยม ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ได้เคยกล่าวว่า “ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน” ว่าเฟดจะมีแผนปรับลดพอร์ตงบดุลเป็นปริมาณมากเท่าใด ดังนั้น บรรดานักลงทุนจะจับตาสัญญาณจากการประชุมครั้งนี้แทน เนื่องจากนายโพเวลน่าจะถูกกดดันให้ตอบคำถามดังกล่าวระหว่างถ้อยแถลงของเขา
นักวิเคราะห์จาก Insight North America LLC ระบุว่า ตลาดต้องการ “ความชัดเจนและการปลอบประโลม” เกี่ยวกับขนาดของการปรับลดพอร์ตงบดุล ซึ่งหากสัญญาณที่เฟดส่งออกมาไม่สอดคล้องกับคาดการณ์ของตลาด ก็อาจจะเห็นถึงความผันผวนได้เล็กน้อย
ที่มา: KITCO