· ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการ นำโดยการร่วงลงของหุ้นบริษัทแอปเปิล ขณะที่กลุ่มนักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการหาข้อตกลงทางการค้าของสหรัฐฯและจีน โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดลง 26.72 จุด ที่ระดับ 25,887.38 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดปรับตัวลงต่ำกว่า 2,832.57 จุด ทางด้าน Nasdaq ปิด -0.1% ที่ระดับ 7,723.95 จุด โดยภาพรวมทั้งดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิด -0.7%
ตลาดหุ้นเริ่มมีการ Roll Over หลังจากที่มีรายงานข่าวจาก Bloomberg ที่ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯมีความกังวลว่าจีนอาจจะกลับมาต่อต้านข้อเรียกร้องของสหรัฐฯในการหารือทางการค้าร่วมกัน ขณะเดียวกันผู้แทนเจรจาของจีนก็กังวลว่าจะไม่ได้รับการรับรองว่าสหรัฐฯจะยังไม่ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของจีนจากการที่ยังบรรลุข้อตกลงร่วมกันไม่ได้
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯกลับมาปรับขึ้นได้อีกครั้ง หลังมีรายงานว่าในการเจรจาขั้นสุดท้ายที่จะเกิดขึ้น นายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีนจะมีการเดินทางมายังสหรัฐฯในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่จับตาไปยังความไม่แน่นอนกรณี Brexit ประกอบกับตลาดเฝ้ารอผลประชุมเฟดคืนนี้ โดยดัชนี Stoxx 600 ปิด +0.62%
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดด้วยท่าทีระมัดระวังในวันนี้ ท่ามกลางรายงานข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีนิกเกอิเปิด -0.19% ขณะที่ดัชนี Topix เปิด -0.13% ทางด้านหุ้น Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.7%
· นักบริหารการเงิน คาดว่า เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.50-31.80 บาท/ดอลลาร์ จับตากังวล Brexit ขณะที่กนง. คาดคงดอกเบี้ยวันนี้
· ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์ว่า คาดว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 20 มี.ค. กนง.น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% แต่ยังคงส่งสัญญาณพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยตามสถานการณ์ของเศรษฐกิจ (Data Dependent)
ทั้งนี้ ซึ่งทิศทางเศรษฐกิจไทย ยังคงเผชิญความไม่แน่นอนจากปัจจัยทั้