• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 22 มีนาคม 2562

    22 มีนาคม 2562 | Economic News

· เมื่อคืนนี้ค่าเงินดอลลาร์รีบาวน์กลับได้หลังจากที่ถูกกดดันจากการที่เฟดจะยุติการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ พร้อมกับการจะสิ้นสุดแผนลดยอดงบดุลในพอร์ตช่วงเดือนก.ย. โดยดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้น 0.86% ที่ระดับ 96.58 จุด หลังจากที่คืนวันพุธปิดต่ำกว่าระดับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 เดือน

แต่ถึงแม้จะเห็นการรีบาวน์กลับของค่าเงินดอลลาร์เมื่อคืนนี้ แต่นักวิเคราะห์ก็มองว่าภาพรวมดอลลาร์จะยังถูกกดดันอยู่ในช่วงที่เหลือของปี เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯไม่อำนวย และมีโอกาสเห็นเฟดปรับลดดอกเบี้ยได้มากกว่าเดินหน้าขึ้นดอกเบี้



· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ม.ค. ปี 2018 หลังจากที่เฟดคงดอกเบี้ยและมีแนวโน้มจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ พร้อมหั่นคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจและมีการเผยแผนยุติโครงการลดยอดงบดุลในพอร์ต จึงทำให้ผลตอบแทนระยะยาวอายุ 10ปี ร่วงลงแตะ 2.519% ขณะที่ผลตอบแทนอายุ 30 ปี ร่วงลงแตะ 2.957%

· ด้านค่าเงินปอนด์ยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่าจากความกังวลที่ว่าอังกฤษจะเผชิญกับภาวะ No-Deal หลังนายกรัฐมนตรีอังกฤษยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกับส.ส.ในรัฐสภาฯได้ โดยล่าสุดค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงมาอีก 1.17% ที่ 1.3042 ดอลลาร์/ปอนด์

· รายงานจาก CNBC ระบุว่า ทางอียูมีมติเห็นพ้องในการเลื่อนระยะเวลาที่อังกฤษจะออกจากอียูออกไป แต่การเลื่อนดังกล่าวจะเป็นเวลานานหรือไม่ขึ้นอยู่กับรัฐสภาอังกฤษจะสามารถยอมรับต่อข้อตกลงการเจรจาการถอนตัว

· นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะกรรมาธิการอียู ที่ระบุว่า อาจมีการขยายเวลา Brexit ออกไปจนถึง 22 พ.ค. หากนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษสามารถทำให้รัฐสภาอังกฤษยอมรับข้อตกลงการถอนตัวจากอียูได้ แต่หากนางเมย์ไม่สามารถตกลงกับทางรัฐสภาฯได้ หรือรัฐสภายังคงปฏิเสธข้อตกลง อังกฤษอาจต้องเผชิญกับการออกจากอียูในวันที่ 12 เม.ย.

· อย่างไรก็ดี นางเมย์ มีการเรียกร้องขอขยายเวลา Brexit ออกไปจาก 29 มี.ค. เป็น 30 มิ.ย. หลังจากที่ทางรัฐสภาอังกฤษปฏิเสธข้อตกลงการถอนตัวจากอียูถึง 2 ครั้ง แต่ผู้สื่อข่าวบางสำนักเผยว่า นางเมย์ ยังคงเชื่อมั่นว่า ในท้ายที่สุด อังกฤษจะหาวิธีที่เหมาะสมในการออกจากอียู

· รายงานจาก CNN ระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีการกล่าวเตือนว่าการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจีนมูลค่า 2.50 แสนล้านเหรียญจะยังไม่มีผลบังคับใช้ในเร็วๆนี้ หากทั้งสองประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงได้ แต่ทางสหรัฐฯก็ยังไม่ได้มีการหารือเพื่อยุติแนวทางดังกล่าวแต่อย่างใด จนกว่าจะแน่ใจว่าทั้งสองประเทศนั้นสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้เป็นที่แน่นอน

· สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า สหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรบริษัทขนส่งจีน 2 แห่งที่ให้การช่วยเหลือเกาหลีเหนือที่หลบเลี่ยงความต้องการของสหรัฐฯและชาติพันธมิตรที่มีการคว่ำบาตรจากโครงการอาวุธนิวเคลียร์ โดยเหตุการณ์ล่าสุดนับเป็นการคว่ำบาตรครั้งแรกหลังจากที่ผู้นำทั้งสองประเทศมีการประชุมร่วมกันครั้งล่าสุดไปเมื่อเดือนที่แล้ว

· ทางทำเนียบขาวปฏิเสธข้อเรียกร้องของพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับการจัดประชุมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับ นายวลาดิเมีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย โดยต้องมีการหารือถึงแผนการจัดประชุมดังกล่าวอย่างเหมาะสมอีกครั้ง

· ดัชนี Core CPI ของญี่ปุ่นปรับขึ้น 0.7% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบปีก่อน แต่ก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ที่บีโอเจกำหนด และยังสะท้อนถึงความเปราะบางในการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น อันเป็นผลมาจากข้อขัดแย้งทางการค้าของสหรัฐฯและจีน รวมทั้งการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจีนที่กดดันยอดส่งออกและความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ

· รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น กล่าวว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะยังขยายตัวได้ในระดับปานกลาง โดยจะยังไม่มีการเปลี่นแปลงแผนการปรับเพิ่มภาษียอดขายในเดือนต.ค. แต่อย่างใด

· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลง แต่ก็ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดของปี โดยตลาดยังมีแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่กลุ่มโอเปกยังคงเดินหน้าทำตามข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิต ควบคู่กับประเด็นสหรัฐฯคว่ำบาตรอิหร่านและเวเนซุเอลา

· น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับลง 25 เซนต์ ที่ 59.98 เหรียญ/บาร์เรลโดยเป็นการปิดระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา และระหว่างการซื้อขายช่วงต้นตลาดไปทำ High นับตั้งแต่ 12 พ.ย. ที่ 60.39 เหรียญ/บาร์เรล

· น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับลง 47 เซนต์ ที่ 68.03 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ช่วงต้นตลาดไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 13 พ.ย. ที่ 68.69 เหรียญ/บาร์เรล 


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com