· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น หลังปริมาณความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มลดน้อยลงจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯและเศรษฐกิจโลก จึงช่วยหนุนความต้องการในทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย รวมไปถึงค่าเงินเยนและพันธบัตร
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 0.2% แถว 1,315.98 เหรียญ ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 0.3% แถว 1,315.70 เหรียญ
ทั้งนี้ ราคาทองคำในสัปดาห์ก่อนปิดตลาดสูงขึ้น 1% ซึ่งเป็นอัตรารายสัปดาห์ที่มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.
· บรรดานักลงทุนพากันเทขายหุ้น และหันเข้าหาพันธบัตรที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ขณะที่ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวแถวระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์
· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ระบุว่า ตลาดอยู่ในภาวะ Risk-off หรือภาวะที่เลี่ยงการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะหลังจากที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ประกาศออกมาเป็นที่ผิดหวังต่อตลาด
โดยตัวเลขกิจกรรมภาคอุตสาหกกรรมของสหรัฐฯเดือน มี.ค. ที่ประกาศคืนวันศุกร์ ชะลอตัวลงผิดคาด ขณะที่ภาคธุรกิจทั่วยูโรโซนต่างมีผลประกอบการที่ย่ำแย่ลงมากกว่าที่คาดในเดือนเดียวกัน จึงยิ่งตอกย้ำกระแสความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
· นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากข้อมูลทางเศรษฐกิจยังคงถูกประกาศออกมาอ่อนแอติดต่อกัน จะมีโอกาสสูงมากที่จะเห็นราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้อีก
· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ยังคงปรับร่วงต่อในช่วงตลาดวันนี้ โดยหลุดต่ำกว่าระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ซึ่งตลาดมองว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีนัก ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจเข้าสู่ภาวะชะลอตัวเร็วกว่าคาด ขณะที่ Yield curve ที่เกิดการกลับตัวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางปี 2007
· นายชาลส์ อิวานส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก มองว่า เป็นช่วงที่เหมาะสมที่เฟดจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อจับตาดูท่าทีของเศรษฐกิจไปก่อน จึงคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยต่อไป อย่างน้อยจนถึงครึ่งหลังของปี 2020
· นักวิเคราะห์จาก OANDA คาดว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มสูงที่จะพยายามปรับขึ้นไปบริเวณ 1,350 เหรียญอีกครั้ง เนื่องจากภาพรวมทางเทคนิคยังมีความแข็งแกร่ง ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังสนับสนุนราคาทองคำ ไม่ว่าจะเป็นความผันผวนของตลาดที่เกิดจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และสัญญาณผ่อนคลายทางนโยบายการเงินจากทั้งเฟด และธนาคารกลางอื่นๆ
· อีกปัจจัยที่บ่งชี้ถึงความต้องการในทองคำที่แข็งแกร่ง คือการที่กองทุน SPDR มีการเข้าซื้อทองคำเพิ่มอีก 1% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
· ขณะที่บรรดานักลงทุนในตลาด COMEX ได้เพิ่มสถานะ Long ในทองคำเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอีกเช่นกัน
· ราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้นและแกว่งตัวในกรอบประมาณ 12 เหรียญ โดยทองคำยังยืนเหนือ 1,300 เหรียญ โดยราคายังคงมีการเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 20-22 เหรียญ และมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อหากราคาสามารถกลับยืนเหนือ 1,320 เหรียญ ขณะที่ภาพใหญ่ดูราคาจะตอบรับกับการที่เฟดจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ควบคู่กับความกังวลเกี่ยวกับภาวะขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก
· ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวแดนบวกติดต่อกัน 3 สัปดาห์ และยังคงปิดเหนือระดับสูงสุดของสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางปัจจัยต่างๆทั่วโลกที่ดูจะเป็นตัวสนับสนุนราคาทองคำได้เป็นอย่างดี และหากยิ่งมีความชัดเจนมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะเผชิญกับภาวะถดถอยก็อาจจะยิ่งผลักดันให้อุปสงค์ทองคำเพิ่มขึ้นแต่ก็อาจจะยังไม่เห็นทองคำทำ New High ได้ในเวลานี้ โดยเรามอง 2 ปัจจัยไว้ที่:
1. ราคาทองคำปิดเหนือแนวรับ โดยสามารถผ่าน 1,318 เหรียญได้ เมื่อนั้นมีโอกาสที่เราจะเห็นราคาไปที่ 1,327 เหรียญ และมีโอกาสไปแตะ 1,341 เหรียญ
2. หากทองคำไม่สามารถขึ้นได้ต่อและอ่อนตัวลงมามีโอกาสกลับลงทดสอบเป้าหมาย 1,284 เหรียญ และ 1,273 เหรียญ ตามลำดับ
· ผลสำรวจจาก Kitco แสดงให้เห็นว่า เสียงส่วนใหญ่ของกลุ่มนักลงทุนกว่า 71% และผู้เชี่ยวชาญตลาดทองคำกว่า 68% มองว่าทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้
หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดประจำ SIA Wealth Management ระบุว่า สัปดาห์นี้ทองคำจะเป็นแนวโน้มทิศทางขาขึ้น จากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับประเด็นข้อตกลง Brexit และการที่เงินทุนไหลกลับเข้ามาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำในระยะสั้น
· ราคาทองคำยังทยอย “ปรับขึ้น” ในรูปแบบ ขึ้น 2 ที ลง 3 ครั้ง ซึ่งจะสามารถเห็นกรอบขาขึ้นได้จากกราฟด้านล่างอย่างชัดเจน และนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง Long หรือฝั่ง Short ก็สามารถจับตาการเคลื่อนไหวได้กรอบดังกล่าวเพื่อเป็นแนวทางในการลงทุนต่อไปได้
ทั้งนี้ ในภาพรวมใหญ่จะเห็นได้ว่าราคามีการปรับฐานลงมาจากระดับสูงสุดของเดือนก่อน แต่ราคายังคงไม่หลุดกรอบแนวรับของเทรนขาขึ้น โดยตราบใดที่ราคายังไม่หลุดกรอบดังกล่าวลงมา ภาพรวมระยะสั้นก็ยังคงมองเป็นขาขึ้นได้ แต่โอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นต่อได้เริ่มที่จะเลือนลาน เนื่องจากแรงหนุนในทิศทางขาขึ้นดูจะอ่อนกำลังลงไป
โดยหากราคาเกิดการ Break ออกจากกรอบนี้ ทิศทางของตลาดก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และราคากำลังเคลื่อนไหวในรูปแบบของ Head-and-shoulders โดยมีแนว 1,280 เหรียญ เป็น shoulder ข้างหนึ่ง หากราคาหลุดกรอบดังกล่าว ก็มีแนวโน้มที่จะย่อตัวลงมาถึงบริเวณนี้ก่อตัวเป็น shoulder อีกข้าง
อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น ตลาดจะจับตากรอบดังกล่าว โดยเฉพาะแถวเส้นแนวรับของเทรน เพื่อดูว่าราคาจะหลุดต่ำกว่ากรอบดังกล่าว หรือจะสามารถรีบาวน์กลับขึ้นมาตามเทรนได้อีกครั้ง
· ประธานบริหารจาก Blue Line Futures กล่าวว่า ทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ขณะที่ระยะยาวยังมีโอกาสที่จะเห็นทองคำปรับขึ้นได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ดูจะถูกกดดันให้อ่อนตัวลง ดังนั้น ในเวลานี้นักลงทุนต้องอดทนรอดูผลลัพธ์ดังกล่าว เพราะการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในระยะยาวนั้นจะเป็นผลบวกต่อทอง
· ด้านราคาพลาเดียมปรับลดลง 0.1% บริเวณ 1,562 เหรียญ ขณะที่ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.3% แถว 15.46 เหรียญ และราคาแพลทินั่มปรับสูงขึ้น 0.5% แถว 847.99 เหรียญ