· ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้นเล็กน้อยวานนี้ หลังจากที่มีข่าวว่าผลการสอบสวนของนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ อัยการพิเศษของสหรัฐ ไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า ทีมหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สมรู้ร่วมคิดกับรัสเซียเพื่อกระทำการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี แม้ตลาดจะปรับขึ้นได้ก็ดูเหมือนจะมีปัจจัยลบอย่างภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่สดใสเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดัน
· ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 14.51 จุด ที่ระดับ 25,516.83 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.1% ที่ระดับ 2,798.36 จุด และถือเป็นครั้งแรกที่ดัชนี S&P500 ปิดต่ำกว่า 2,800 จุดเป็นครั้งแรกตั้งแต่ 12 มี.ค. ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิด -0.1% ที่ 7,637.54 จุด
· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลง จากความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสัญญาณภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนครั้งใหม่จากกรณี Brexit ในช่วงไม่กี่วันก่อนที่อังกฤษจะออกจากอียู โดยดัชนี Stoxx600 ปิด -0.42%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดปรับขึ้นในเช้านี้หลังจากที่เมื่อวานปิดร่วงลงอย่างหนักจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่กดดันความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุน โดยดัชนีนิกเกอิเปิด +1.25% ในเช้านี้ ท่ามกลางดัชนี Topix ที่เปิด +1.39% และดัชนี Kospiของเกาหลีใต้เปิด +0.16%
· นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 31.45 - 31.65 บาท/ดอลลาร์
· พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวภายหลัง กกต.ประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตอย่างไม่เป็นทางการ 350 เขต โดยระบุว่า พรรคชนะการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต โดยได้เสียง ส.ส.ราว 137 ที่นั่ง จึงยืนยันว่ามีความชอบธรรมที่จะรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยหลังจากนี้ จะประสานกับพรรคการเมืองร่วมอุดมการณ์เพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลต่อไป และคาดว่าพรรคในกลุ่มนี้ จะได้รับการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งแขตเข้ามามากกว่า 300 เสียง ซึ่งไม่นับรวมเสียงของพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมพลังประชาชาติไทย