ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวขึ้น 0.1% ที่ 1,316.09 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับขึ้น 0.% ที่ 1,315.7 เหรียญ
· นักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดจาก CMC Market กล่าวว่า กลุ่มนักลงทุนค่อนข้างมีท่าทีระมัดระวังต่อภาวะผกผันของ Yield Curve ที่หลายครั้งมักเป็นตัวส่งสัญญาณต่อภาวะถดถอยในช่วงที่ผ่านมา
ขณะที่ยอดก่อสร้างบ้านใหม่ในสหรัฐฯปรับตัวลงเกินคาดในเดือนก.พ. ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคหดตัวลงในเดือนมี.ค. จึงเป็นหนึ่งในหลักฐานบ่งชี้ถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ชะลอตัวลงในช่วงเริ่มต้นปีนี้
· ตลาดหุ้นเอเชียปิดปรับลง แต่ก็ปรับตัวขึ้นได้บางช่วงจากการที่กลุ่มนักลงทุนเริ่มลดความสนใจในตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ หลังจากที่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นมายืนเหนือระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ธ.ค. ปี 2017
· นักวิเคราะห์บางส่วน มองว่า ความไม่แน่นอนกรณี Brexit ที่เพิ่มขึ้นได้ช่วยหนุนความต้องการทองคำในฐานะ Safe Haven ขณะที่การเจรจาทางการค้าที่หลายฝ่ายรอคอยใกล้ชิดระหว่างสหรัฐฯและจีนก็จะเปิดฉากกลับมาประชุมในวันพรุ่งนี้
· รองประธานฝ่ายวิจัยด้านโลหะมีค่า พลังงาน และค่าเงิน กล่าวว่า ทองคำยังคงทรงตัวและมีโอกาสใกล้ 1,325 เหรียญ ก็อาจเห็นทองคำสะสมพลังอยู่ในกรอบ แต่หากทองคำฝ่าระดับดังกล่าวไปได้ก็มีโอกาสเห็นทองคำขึ้นไปแถว 1,350 เหรียญ
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางรายก็มองถึงความสัมพันธ์ระหว่างทองคำกับค่าเงินดอลลาร์ ที่ดูจะยังเป็นผลลบต่อการเคลื่อนไหวของทองคำได้ หากดอลลาร์ยังมีการปรับแข็งค่า
· ราคาทองคำชะตัวลงหลังชนแนวต้านที่ 1,326.30 เหรียญ หากราคาทองคำยังคงย่อตัวต่อเนื่องจากแนวต้านดังกล่าว หากราคาย่อตัวลงมาถึงบริเวณ 1,303.70 – 09.12 เหรียญ ราคาจะกลับมีโอกาสกลับไปเคลื่อนไหวตามรูปแบบ Head and Shoulders อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ราคามีความเสี่ยงที่ราคาจะย่อตัวลงถึง 1,282.16 เหรียญ ในทางกลับกันหากราคาฟื้นตัวและกลับไป Break แนวต้านได้ จะมีโอกาสขึ้นต่อไปถึงบริเวณ 1,346.75 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของเดือน ก.พ.
· นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า การฟื้นตัวของตลาดหุ้นได้ส่งผลให้เกิดแรงเทขายเข้ามาในตลาดทองคำ ซิลเวอร์ และพลาเดียม ประกอบกับแรงกดดันบางส่วนจากตลาดพันธบัตรสหรัฐฯที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวหลังจากที่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายกังวลต่อภาวะผกผันที่เพิ่งเกิดขึ้นว่าจะเผชิญกับวิกฤตระบบธนาคาร ตามมาด้วย ภาวะถดถอย
อย่างไรก็ดี ภาวะผกผันดังกล่าวดูจะเป็นการเคลื่อนไหวแบบชั่วคราวเท่านั้น ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวก็ดูจะกระตุ้นให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบมายังเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ในทางเทคนิคราคาทองคำดูจะยังเคลื่อนไหวได้ดีและมีการปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และมีการยกจุด Higher Low โดยทองคำสัปดาห์นี้อาจเป็นสัปดาห์ที่ 4 ที่ยังเห็นทองคำปรับขึ้นต่อได้ โดยมีระดับสำคัญที่ต้องจับตาคือ เส้น Fibonacci Retracement 23% ที่ 1,313.9 เหรียญ ขณะที่แนวรับถัดไปที่ทองคำ ณ ปัจจุบันยังทรงตัวได้ และทำให้ภาพเป็นขาขึ้น คือการยืนเหนือเส้น Moving Average 50 วัน ทีี่ระดับ 1,308.4 เหรียญ
สำหรับแนวต้านของทองคำจะมีแนวต้านแรกคือ 1,331 เหรียญ และ 1,350 เหรียญ ซึ่งหากผ่านไปได้มีแนวโน้มจะเห็นทองคำปรับตัวขึ้นไปที่ 1,370 เหรียญได้
· ราคาพลาเดียมปิดปรับขึ้น 0.3% ที่ 1,544.6 เหรียญ ขณะที่ซิลเวอร์ทรงตัวที่ 15.43 เหรียญ และพลาเดียมปรับขึ้น 0.6% ที่ 860 เหรียญ