· ราคาทองคำปรับตัวลงจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ โดยสัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดลดลง 4.6 เหรียญ ที่ 1,310.4 เหรียญ
· ตลาดหุ้นทั่วโลกอ่อนตัวลงจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ปรับตัวลงทำระดับต่ำสุดรอบ 15 เดือน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีปรับตัวลงต่ำกว่าระดับศูนย์
· นักวิเคราะห์มองว่า ภาวะที่ไม่สดใสทางเศรษฐกิจยังคงเป็นปัจจัยบวกสำหรับทองคำและทำให้ราคาทองคำไม่อ่อนตัวลงไปมาก โดยช่วงต้นตลาด ราคาทองคำตลาดโลกปรับอ่อนตัวเพียง 0.2% ที่ 1,312.67 เหรียญ ในขณะที่ดอลลาร์กลับมาแข็งค่า
· นักวิเคราะห์จาก BMO ระบุว่า แรงเทขายที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นมาจากการปิดสถานะ Long บางส่วนของกลุ่มนักลงทุน อันเนื่องมาจากราคาไม่สามารถฟื้นตัวไปต่อได้ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอ่อนตัว ที่กระทบต่อค่าเงินดอลลาร์ที่ผ่านมา ขณะที่ล่าสุดดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นประมาณ 0.2% จึงส่งผลลบต่อราคาทองคำ
· ผู้บริหารด้านการลงทุนประจำ Dillon Gage Metals กล่าวว่า แรงเทขายทำกำไรในทองคำ เกิดขึ้นหลังจากที่ทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือจุดสูงสุดของสัปดาห์นี้ที่ทำไว้เมื่อวันจันทร์บริเวณ 1,324 เหรียญ โดยระดับ 1,324.32 เหรียญ ถือเป็นจุดสูงสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์
· กลุ่มนักลงทุนรอคอยการเจรจารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯและจีน ควบคู่กับการที่นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษที่เผชิญหน้ากับบรรดาสมาชิกรัฐสภาเพื่อหาความเป็นไปได้เกี่ยวกับกรอบเวลาการออกจากอียู หลังจากที่เธอถูกปฏิเสธข้อตกลงที่นำเสนอถึง 2 ครั้ง
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 784.26 ตัน
· ราคาพลาเดียมปรับร่วงลง 6% จากกลุ่มนักลงทุนที่ปิดสถานะทำกำไรหลังจากที่ราคาฟื้นตัวไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบกับอุปสงค์ในกลุ่มโลหะผลิตรถยนต์ได้ โดยราคาพลาเดียมปิด -6% ที่ 1,445 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 18 ก.พ. หลังไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้วที่ 1,620.52 เหรียญ
· ราคาซิลเวอร์ปิดปรับลง 0.8% ที่ 15.3 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด -0.1% ที่ 854.56 เหรียญ