· บทวิเคราะห์จาก Daily FX ประเมินว่า ดัชนีดาวโจนส์ทางเทคนิคดูเหมือนกำลังสะสมพลังเพื่อที่จะ Breakout สูงขึ้น โดยจะเห็นได้จากที่การดัชนีปรับขึ้นมาเคลื่อนที่เหนือเส้น 78.6% Fibonacci retracement นอกจากนี้ ดัชนียังได้ปรับขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 20 วัน บ่งชี้ถึงมุมมองเชิงบวกในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม ดัชนีจะเผชิญแนวต้านที่เป็นเส้นเทรนขาลงระยะยาวจากระดับสูงสุดของเดือน ต.ค. 2018 และของเดือน ก.พ. กับ มี.ค. 2019 จึงอาจเป็นปัจจัยที่กดดันการปรับขึ้นของดัชนี แต่ในภาพรวมแล้ว มุมมองของฝั่งขาขึ้นดูจะแข็งแกร่งกว่าแนวต้านดังกล่าว
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางเหล่านักลงทุนในยุโรปที่ให้ความสนใจไปยังตัวเลขเศรษฐกิจจจีนที่ออกมาดีกว่าที่คาด
โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 50.8 ในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 49.9 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นหลังจากที่หดตัวติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.8% ขณะที่ตลาดภูมิภาคเคลื่อนไหวในแดนบวก
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางข้อมูลที่ดีขึ้นเกี่ยวกับตัวเลขภาคการผลิตของจีนประจำเดือนมี.ค. รวมทั้งสัญญาณเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าสหรัฐฯและจีน แม้ว่านางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษไม่สามารถได้รับเสียงข้างมากในการสนับสนุนข้อตกลงครั้งที่ 3 ของเธอได้ กดดันค่าเงินปอนด์ โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกกรณีเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมทั้งข้อมูลกิจกรรมภาคโรงงานที่ช่วยหนุนหุ้นจีน และช่วยชดเชยความเชื่อมั่นของบริษัทในประเทศที่อ่อนแอ
โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 1.4% ที่ระดับ 21,509.03 จุด
นักวิเคราะห์อาวุโสทางเทคนิคประจำ Mizuho Securities ระบุว่า การเปลี่ยนยุคสมัยใหม่ ที่จะมีชื่อว่า "เรวะ" ส่งผลในเชิงบวกต่อมุมมองตลาด ขณะที่เหล่านักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนก่อนหน้าวันหยุดยาวช่วง Golden Week (วันที่ 29 เม.ย.-6พ.ค.)
· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 2.6% ที่ระดับ 3,170.36 ซึ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน ขณะที่ดันีกลุ่มบลูชิพแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่รอคอยสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งประเด็นความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าสหรัฐฯและจีน