· ดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯต่างปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ ท่ามกลางสัญญาณความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีนที่อาจบรรลุข้อตกลงได้ในเร็วๆนี้ โดยดัชนีฟิวเจอร์สดาวโจนส์ปรับสูงขึ้น 17 จุด ขณะที่ดัชนี S&P และ Nasdaq ต่างเคลื่อนไหวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน
· นักวิเคราะห์แนวหน้าจาก J.P. Morgan ชี้ ดัชนี S&P 500 มีแนวโน้มจะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ระดับ 3,000 จุด ได้ภายในสิ้นเดือน พ.ค. แต่ต้องอย่ภายใต้เงื่อนไข 2 อย่าง คือ 1) สหรัฐฯและจีนบรรลุข้อตกลงการค้า 2) กรณี Brexit ดำเนินไปโดยไม่ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อตลาด
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ท่ามกลางเหล่าเทดรเดอร์ที่ให้ความสนใจไปยังการเจาจรทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.3% ขณะที่ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง จากระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่เทขายทำกำไร ท่ามกลางความไม่แน่นอนครั้งใหม่เกี่ยวกับการเจรจาทางการค้า รวมทั้งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น ร่วงลง 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนส.ค.
เหล่านักวิเคราะห์ ระบุว่า นักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนเนื่องจากไม่มีข่าวใหม่เกี่ียวกับประเด็นการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่น่าผิดหวังในสัปดาห์นี้ก็เป็นที่ตลาดจับตามองอย่างหนัก
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ท่ามกลางเหล่านักลงทุนเข้าซื้อหุ้นผู้ผลิตรถยนต์และหุ้นวัฏจักรอื่น ๆ เนื่องจากความหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนจะสามารถบรรลุได้
โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.05% ที่ระดับ 21,724.95 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงุสดในรอบ 1 ปี ขณะที่ดัชนีกลุ่มบลูชิพ เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการ ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ให้ความสนใจไปยังการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนเพื่อหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ
โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.9% ที่ะรดับ 3,246.57 จุด ทั้งนี้ ตลาดหุ้นจีนจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้เนื่องในวันหยุดนัขตฤกษ์ (The Qingming Festival)
· รายงานจากสำนักข่าว BBC Thai ระบุว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติสั่งให้นับคะแนนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตใหม่ จำนวน 2 หน่วย และสั่งให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ จำนวน 6 หน่วย
นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลงว่า หน่วยเลือกตั้งที่ถูกสั่งให้นับคะแนนใหม่ จำนวน 2 หน่วย เป็นกรณีที่ผลการนับคะแนนไม่ตรงกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งและจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ลงคะแนน ส่วนหน่วยเลือกตั้งที่ถูกสั่งให้ออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ จำนวน 6 หน่วย เป็นกรณีที่ผลการนับคะแนน มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิออกเสียงไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้ง