· ดาวโจนส์ปิดปรับลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่กำลังรอคอยการเริ่มประกาศผลประกอบการช่วงปลายสัปดาห์นี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับลง 190.44 จุด ที่ระดับ 26,150 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.6% ที่ระดับ 2,878.20 จุด ท่ามกลางการอ่อนตัวจากภาคอุตสาหกรรม พลังงาน และบริษัทด้านการเงิน ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดปรับลงกว่า 0.5% ที่ระดับ 7,909.28 จุด ท่ามกลางหุ้นบริษัทไมโครซอฟต์, แอปเปิ้ล, อะเมซอน และอัลฟาเบธ
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดอ่อนตัวลงท่ามกลางความกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยดัชนีนิกเกอิเปิด -0.86% ขณะที่ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.35% และดัชนี ASX200 ปิด -0.35%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ระหว่าง 31.70-31.85 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ คือ ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ, การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดเดือนมี.ค. รวมทั้งประเด็น Brexit และปัญหาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน
- รมว.คลังไทย เชื่อว่าภาพรวมการบริโภคของภาคเอกชนทั้งไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ปีนี้ ยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนมี.ค.62 ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เพราะมีปัจจัยหนุนจากกิจกรรมรณรงค์หาเสียงในช่วงการเลือกตั้ง แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวลมากกว่านั้น คือ การลงทุนภาคเอกชน เนื่องจากที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับนักลงทุนต่างประเทศส่วนใหญ่ยังชะลอการลงทุนในไทยช่วงนี้ไว้ก่อน เพื่อขอรอดูความชัดเจนทางการเมืองจากผลการเลือกตั้งเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ภาพรวมกำไรสุทธิของระบบธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในไทย จะอยู่ที่ประมาณ 4.51 หมื่นล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนประมาณ 4.0% โดยกำไรจากการดำเนินงานยังคงเผชิญแรงกดดันหลักจากผลกระทบจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านช่องทางดิจิทัล
- กรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า ภาวะตลาดตราสารหนี้ในไตรมาสแรก ของปี62 โดยรวมยังคงเติบโตได้ มีมูลค่าคงค้างรวม 12.96 ล้านล้านบาท ขยายตัวขึ้น 1.3% จาก 12.79 ล้านล้านบาทในปี 61 สมาคมฯ ยังคงเป้าหมายการออกตราสารหนี้ระยะยาวปีนี้ไว้ที่ 7.5-8.5 แสนล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 1/62 ทำได้แล้ว 2.79 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก Real sector มีการออกตราสารหนี้ระยะยาวเพิ่มขึ้น 64%
- สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือน เม.ย.62 พบว่า ดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (มิ.ย.62) อยู่ในเกณฑ์ ทรงตัว ปรับตัวลดลง 17.72% มาอยู่ที่ 107.53 จากที่เคยอยู่ในเกณฑ์ร้อนแรงในเดือนก่อน โดยผลสำรวจพบว่านักลงทุนมีความกังวลเสถียรภาพรัฐบาลใหม่ภายหลังการเลือกตั้งเป็นปัจจัยหลัก รองลงมาคือสถานการณ์เจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐและจีน