• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 17 เมษายน 2562

    17 เมษายน 2562 | Gold News

· ราคาทองคำปรับตัวลงไป 1% ทำระดับต่ำสุดของปี อันเป็นผลมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ จึงหนุนให้อุปสงค์ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น ในขณะที่ราคาทองคำถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์


ราคาทองคำปรับตัวลง 0.88% ที่ 1,276.25 เหรียญ หลังจากที่ช่วงต้นตลาดเมื่อวานนี้ทำระดับต่ำสุดตั้งแต่ 27 ธ.ค. ที่ 1,272.7 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด -1.1% ที่ระดับ 1,277.2 เหรียญ


· กองทุน SPDR เมื่อวันจันทร์ทำการเทขายทองคำ 3.82 ตัน และเมื่อวันอังคารขายอีก 1.76 ตัน รวม 2 วันทำการขายออก 5.58 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 752.27 ตัน

· นักกลยุทธ์การตลาดอาวุโสจาก RJO Futures กล่าวว่า มีแนวโน้มจะเห็นราคาทองคำถูกกดดันต่อในอีก 2-3 วันข้างหน้า โดยเฉพาะรายงานผลประกอบการที่ออกมาและส่งผลให้ตลาดหุ้นแข็งแกร่ง ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจากจีนและรายงานจ้างงานสหรัฐฯในสัปดาห์ก่อนที่ออกมาดี


· สัญญาณบ่งชี้ทั้งหมดดูเหมือนจะยังหนุนให้สินทรัพย์เสี่ยงแข็งแกร่ง โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่งจากผลประกอบการบริษัทด้านสุขภาพรายใหญ่ที่ดีขึ้นเกินคาด รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจของจีน และความเชื่อมั่นนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นในเยอรมนี


· กลุ่มนักลงทุนขณะนี้กำลังรอรายงานจีดีพีจีนที่จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงภาวการณ์เติบโตทางเศรษฐกิจ โดยผลสำรวจจากรอยเตอร์ส ชี้ว่าในช่วงไตรมาสแรก จีดีพีจีนจะชะลอตัวลงแตะ 6.3% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 27 ปี แต่จีนอาจมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นอุปสงค์สำหรับกิจกรรมภาคการผลิตในเดือนมี.ค. และหากข้อมูลต่ำกว่า 6% ก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้ทองคำปรับตัวขึ้นได้ แต่หากสูงกว่า 6% ก็ดูจะมีโอกาสกดดันทองคำต่อ


· นักวิเคราะห์ทางเทคนิค กล่าวว่า ทองคำหลุดต่ำกว่าระดับแนวรับ รวมทั้งเส้นค่าเฉลี่ยราย 100 วัน และ 50 วัน จึงบ่งชี้ถึงภาวะราคาขาลง


· ประธานฝ่ายบริษัทโลหะมีค่าจาก INTL FCStone กล่าวว่า ราคาทองคำดูจะมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,217 – 1,330 เหรียญ และดูจะยังเคลื่อนไหวในกรอบ ไปอีกระยะ แต่ในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้มีโอกาสเห็นทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อ และมีโอกาสที่จะกลับทดสอบระดับ 1,400 เหรียญได้ในช่วงสิ้นปีนี้


โดยเหตุผลสำคัญมาจากการที่เฟดมีท่าทีผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น รวมทั้งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก และการที่ธนาคารกลางต่างๆมีการเข้าซื้อทองคำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบกว่า 50 ปี อันเป็นผลมาจากการใช้เป็นสินทรัพย์ทางเลือกจากค่าเงินอย่างค่าเงินดอลลาร์ และการที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มไม่ค่อยสดใส และมีภาวะตึงเครียดทางการเมือง โดยเฉพาะความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่ทำให้ทองคำดูจะถูกต้องการในฐานะ Safe-Haven


· นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered ระบุว่า สำหรับความเชื่อมั่นนักลงทุนในทองคำภาพรวมดูจะยังอยู่ในแนวโน้มเชิงบวก อันจะเห็นได้จากการเพิ่มการถือครองทองคำของบรรดาธนาคารกลางต่างๆ


· รายงานจาก WGC ระบุว่า ธนาคารกลางต่างๆมีการเข้าถือครองทองคำยังไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบ 50 ปี โดยภาพรวมมีการเข้าถือครองทองคำเพิ่ม 651.5 ตัน หรือคิดเป็น 74% เมื่อเทียบรายปีในปี 2018 ขณะที่ปี 2017 มีการเข้าซื้อเพียง 375 ตัน ดังนั้นข้อมูลล่าสุดจึงเป็ฯการเข้าซื้อทองคำที่มากที่สุดตั้งแต่ปี 1967



· สำหรับสัปดาห์นี้ผลสำรวจจากคิทโกสะท้อนว่าบรรดานักลงทุนมองความเป็นไปได้ที่ทองคำมีโอกาสจะขึ้นและลงด้วยอัตราเปอร์เซ็นเท่ากันที่ 38% และ 25% มองว่าทองคำน่าจะ Sideways ขณะที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ 53% มองว่าสัปดาห์นี้น่าจะเห็นทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อ และ 30% มองทองคำน่าจะลง ขณะที่ 17% มองว่าทองคำน่าจะยังไร้ทิศทาง


· นักวิเคราะห์ที่มองทองขึ้น มองว่า แรงเทขายที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้เห็นราคาดีดกลับ โดยน่าจะมีแรงช้อนซื้อต่อเนื่องมาในสัปดาห์นี้


· หัวหน้ากลยุทธ์ฝ่ายการตลาดจาก SIA Wealth Management มองว่าทองคำจะยังเป็นทิศทางขาลง อันเนื่องมาจากภาพทางเทคนิคก็สะท้อนถึงภาวะขาลง แม้ว่าตลาดจะมีความเสี่ยงด้านการเมือง แต่ตลาดการเงินก็ดูมีความผันผวนในประเด็นดังกล่าวลดลง และตอบรับกับรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจและผลประกอบการเชิงบวก จึงดูแล้วน่าจะกดดันทองคำต่อไปในระยะสั้นๆ


· ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน เม.ย.62 อยู่ที่ 54.39 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 1.49 จุด หรือ 2.82% จากเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาจากระดับ 52.90 จุด ปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นมาจากความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เงินบาทอ่อนค่าหนุนราคาทองคำในประเทศ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก แรงซื้อเก็งกำไร และนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

· ราคาซิลเวอร์ปิด +0.09% ที่ 15 เหรียญ หลังไปทำต่ำสุดตั้งแต่ 26 ธ.ค. ที่ระดับ 14.81 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด -0.96% ที่ 876.50 เหรียญ ทางด้านราคาพลาเดียมปิด -0.59% ที่ระดับ 1,353.50 เหรียญ 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com