• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 17 เมษายน 2562

    17 เมษายน 2562 | Economic News

· ค่าเงินออสเตรเรียดอลลาร์ปรับสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน หลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนประกาศออกมาดีกว่าคาดการณ์ ส่งผลนักลงทุนผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจลงไปได้บางส่วน

โดยค่าเงินออสเตรเรียดอลลาร์ปรับสูงขึ้นเหนือระดับ 0.72 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. จากที่ก่อนหน้าถูกกดดันจากสัญญาณเชิงผ่อนคลายนโยบายการเงินจาก RBA หรือธนาคารกลางออสเตรเรีย

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร โดยดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.2% แถว 96.846 จุด ขณะที่ค่าเงินยูโรแข็งค่า 0.4% บริเวณ 1.1300 ดอลลาร์/ยูโร

ทั้งนี้ ค่าเงินยูโรเผชิญแรงกดดันหลัง Reuters รายงานว่า บรรดาสมาชิกอีซีบีมีแนวคิดว่า อิซีบีมองภาพรวมเศรษฐกิจยูโรโซนไปในทางที่ดีมากเกินไป

· นักวิเคราะห์จาก FXStreet ระบุว่า ค่าเงินปอนด์ทรงตัวในกรอบ 1.3050 ดอลลาร์/ปอนด์ โดยปรับขึ้นหลังจากที่อ่อนค่าลงไป ท่ามกลางการเจรจาของรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านอังกฤษที่ยังไม่สามารถหาข้อตกลง Brexit ได้ ท่ามกลางข้อมูลเงินเฟ้อ (CPI) ของอังกฤษที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้

ภาพรวมค่าเงินปอนด์ค่อยๆปรับขึ้นไปแถวระดับเส้นเทรนไลน์เมื่อ 14 ก.พ. ที่ 1.3030 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังจากที่ค่าเงิน Break กลับจากเส้น SMA200 ที่ 1.2970 ดอลลาร์/ปอนด์ และเส้น SMA100 ที่ 1.2950 ดอลลาร์/ปอนด์ ในทางกลับกัน หากค่าเงินปอนด์แตะเส้น SMA50 ก็มีโอกาสเห็นค่าเงินแถว 1.3100 - 1.3105 ดอลลาร์/ปอนด์ ก็มีโอกาสปรับขึ้นไปเห็นแถว 1.3105, 1.3130 และ 1.3200 ดอลลาร์/ปอนด์

· จีนประกาศตัวเลขการเติบโตของจีดีพีออกมาเหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยจีดีพีในไตรมาสที่ 1/2019 ขยายตัวได้ 6.4% มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 6.3% เทียบกับไตรมาสที่ 4/2018 ที่เติบโตได้ 6.4% และ 6.5% ในไตรมาสที่ 1/2018

นอกจากนี้ จีนยังมีการประกาตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ได้แก่

- อัตราการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial production) เดือน มี.ค. ขยายตัว 8.5% มากกว่าคาดการณ์ที่ 5.9% นับเป็นอัตราเติบโตที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. ปี 2014

- ยอดค้าปลีก (Retail sales) เดือน มี.ค. ขยายตัวได้ 8.7% มากกว่าคาดการณ์ที่ 8.4%

- ยอดลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (Fixed asset investment) ไตรมาสที่ 1/2019 ขยายตัวได้ 6.3% เท่ากับคาดการณ์

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า การที่ตัวเลขดังกล่าวประกาศออกมาดีกว่าคาดการณ์ เป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสัญญาณความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะการเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่ยังไร้ความชัดเจน จึงมีแนวโน้มที่รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในขั้นต่อไป

· นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs เชื่อว่า โอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะถดถอยภายในปีนี้ ได้ลดน้อยลงไปเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี ทั้งนี้ เป็นเพราะไม่มีข้อมูลใดที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ณ ขณะนี้

ทั้งนี้ การที่บรรดาธนาคารกลางทั่วโลกต่างหันมาผ่อนคลายนโยบายการเงิน น่าจะสามารถช่วยให้เศรษฐกิจสามารถเติบโตตามเทรนต่อไปได้

· รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจแห่งอิตาลี กล่าวว่า เศรษฐกิจในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2019 มีสัญญาณที่ดี รัฐบาลจึงคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ 0.2% ในปี 2019

สอดคล้องกับคาดการณ์ของตลาดที่ว่าเศรษฐกิจอิตาลีน่าจะเติบโตได้เล็กน้อยในปีนี้ หลังจากที่ตัวเลขจีดีพีของอิตาลีในไตรมาสที่ 3 และ 4 ปีก่อน ปรับลดลงที่ระดับ -0.1% จึงทำให้เศรษฐกิจอิตาลีเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

· ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นติดต่อเป็นวันที่ 2 ท่ามกลางแรงหนุนจากสัญญาณความแข็งแกร่งของปริมาณอุปสงค์จากบรรดาโรงกลั่นน้ำมันในประเทศจีน ประกอบกับการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก และรายงานปริมาณสต็อกน้ำมันของสหรัฐฯที่ออกมาลดลงผิดคาด

โดยราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับสูงขึ้น 0.4% บริเวณ 72.01 เหรียญ/บาร์เรล ทำระดับสูงสุดรายวันที่ 72.10 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 8 พ.ย.

ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับสูงขึ้น 0.7% บริเวณ 64.49 เหรียญ/บาร์เรล

CRUDE OIL TECHNICAL ANALYSIS

· ราคาน้ำมัน WTI ยังเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัวแถวแนวต้านที่บริเวณ 63.59 – 64.88 เหรียญ/บาร์เรล หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 66.09 – 67.03 เหรียญ/บาร์เรล ส่วนเป้าหมายระยะยาวจะอยู่ที่ 70 เหรียญ/บาร์เรล

ในทางกลับกัน หากราคาย่อตัวลงจะมีแนวรับที่ 60.39 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งหากหลุดลงมาอีก ทิศทางจะกลับตัวเป็นขาลงในระยะสั้น และจะมีเป้าหมายบริเวณ 57.24 – 88 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com