· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับลงจากหุ้นกลุ่ม Health-Care จึงช่วยบดบังผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่ง โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดลง 3.12 จุด ที่ 26,449.54 จุด ขณะที่ S&P500 ปิด -0.2% ที่ 2,900.45 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด 0.05% ที่ 7,996.08 จุด ท่ามกลางหุ้นกลุ่ม Health Care ที่ปิด -2.9% จากปัญหาทางการเมืองบางส่วน และโอกาสที่จะมีการปรับเงื่อนไขการจัดการทางด้านสุขภาพ รวมทั้งภาคบริษัทด้านเภสัชกรรมขนาดใหญ่
· หุ้นยุโรปปิดปรับขึ้นจากหุ้นกลุ่มยานยนต์และธนาคารที่ฟื้นตัวจากข้อมูลเศรษฐกิจจีนทีสดใส และการลดความกังวลต่อภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก ประกอบกับการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันหลัง Brent ยืนเหนือ 72 เหรียญ/บาร์เรลได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พ.ย. โดยดัชนี Stoxx 600 ปิด +0.08% ท่ามกลางหุ้นส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวแดนบวก
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสมผสานกัน ท่ามกลางรายงานผลประกอบการภาคบริษัทที่ออกมาดีขึ้นเกินคาด โดยดัชนีนิกเกอิเปิดอ่อนตัวลง ขณะที่Topix ก็ปรับตัวลงเช่นกัน ทางด้าน Kospi เปิด -0.15% แต่ดัชนี ASX200 เปิด +0.28%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์ ระบุว่า นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.70-31.80 บาท/ดอลลาร์ ช่วงสัปดาห์นี้มีวันทำการสั้นๆ เงินบาทน่าจะแกว่งตัวในกรอบ ขณะที่สุดสัปดาห์จะเป็นเทศกาลอีสเตอร์ของต่างประเทศคาดว่า ค่าเงินจะอยู่ในภาวะทรงตัว ปริมาณการทำธุรกรรมน่าจะเบาบาง
· ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2562 (เดือนตุลาคม 2561 – เดือนมีนาคม 2562) สคร. สามารถจัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากรัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่า 50% รวมจำนวน 93,354 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าประมาณการเงินนำส่งรายได้แผ่นดินสะสมจำนวน 16,969 ล้านบาท หรือ 22% ของประมาณการสะสม
· ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.ดำเนินโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) วงเงินลงทุนรวม 21,795.941 ล้านบาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปี 2562 และแล้วเสร็จในปี 2564