MTS Help Center

· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวขึ้นท่ามกลางการประกาศรายงานผลประกอบการ และยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่ง โดยดัชนีดาวโจนส์ปิด +110 จุด ที่ 26,559.54 จุด ทางด้านดัชนี S&P500 ปิด +0.2% ที่ 2,905.03 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดทรงตัวที่ 7,998.06 จุด ในขณะที่คืนนี้ตลาดปิดทำการในวัน Good Friday

· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นในวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ โดยตลาดตอบรับกับรายงานผลประกอบการภาคบริษัทที่สดใสที่มาช่วยบดบังข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนที่อ่อนแอในช่วงต้นตลาด โดยดัชนี Stoxx 600 ปิดปรับขึ้นได้เกือบ 0.2%

อย่างไรก็ดี ในช่วงต้นตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดันจากข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ หรือ PMI ในภาคการผลิตของฝรั่งเศสและเยอรมนีที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่ภาพรวม PMI ของยูโรโซนก็ออกมาต่ำกว่าคาดและยิ่งจุดประกายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค ฉุดให้ค่าเงินยูโรร่วงลงไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ แต่รายงานผลประกอบการภาคบริษัทอย่าง Unilever และ ภาคพลังงานอย่าง Schneider Electric ที่ดีขึ้นได้ทำให้หุ้นของทั้งสองบริษัทยักษ์ใหญ่ปรับขึ้นได้ประมาณ 3%

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เปิดแดนบวก หลังจากที่ตลาดส่วนใหญ่ในแถบเอเชียแปซิฟิก ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และอินโดนีเซียปิดทำการเนื่องในวันหยุด Good Friday

ดัชนีนิกเกอิเปิด +0.57 ขณะที่ Topix ปิด +0.31% และดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.36%

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์ ระบุว่า นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.70 - 31.90 บาท/ดอลลาร์ โดยจะยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบเช่นเดิม เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามากระทบ

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์ ระบุว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ระบุว่า ฝ่ายนักวิจัยมองว่าในสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน หลังจีนส่งสัญญาณเตรียมเปิดให้ต่างชาติเข้าลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรม การใช้ซอฟต์แวร์ของเครื่องคอม พิวเตอร์ผ่านอินเทอร์เน็ต (Cloudcomputing) ขณะที่ผู้แทนการค้า สหรัฐและสหภาพยุโรปพร้อมเจรจาเพื่อทำข้อตกลงการค้ากันให้เสร็จก่อนสิ้นปีนี้ (ไม่รวมหมวดสินค้าเกษตร) และได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางต่างๆ ดำ เนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น.