· TD Securities มองความเป็นไปได้ที่กลุ่มนักลงทุนจะมีการเพิ่มการถือครองทองคำ อันเนื่องจากท่าทีที่เฟดผ่อนคลายทางการเงิน แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะหนุนให้ทองคำฝ่าเหนือ 1,350 เหรียญ ซึ่งหากเฟดยังคงผ่อนคลายและไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ ก็น่าจะเห็นการเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นตามมา ประกอบกับความเส่ี่ยงที่เพิ่มขึ้นทีส่งผลต่อบรรดาธนาคารกลางต่างๆก็อาจจำเป็นให้เฟดต้องปรับนโยบายการเงิน จึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อทองคำ ขณะที่ราคาทองคำในขณะนี้ดูจะยังเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบมากกว่า
· นักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets มองทองคำจะยังเคลื่อนไหวในกรอบ แม้ว่าจะมีบางช่วงที่เห็นราคาอ่อนตัวลงเหมือนที่ผ่านมาไม่นานนี้ โดยทองคำร่วงลงแตะ 1,272 เหรียญ หรือลงไปกว่า 5% จากระดับสูงสุดในเดือนก.พ. และส่งผลให้สัปดาห์นี้ภาพรวมทองคำร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ขณะที่กองทุนทองคำขนาดใหญ่อย่าง SPDR ลดการถือครองลงมาสู่ระดับต่ำสุดรอบ 6 เดือน จึงบ่งชี้ถึงสภาวะการย้ายเม็ดเงินลงทุนอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสภาวะความเสี่ยงที่เกิดขึ้น และทั้งหมดนี้น่าจะยังทำให้ทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบคล้ายกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
· นักวิเคราะห์จาก Seeking Alpha ระบุว่า ราคาทองคำยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มขึ้น จากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์, การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ดูจะจุดประกายให้นักลงทุนย้ายเม็ดเงินออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยไปหาสินทรัพย์เสี่ยง และทำให้ระยะสั้นเห็นแรงเทขายเข้ามาในตลาดทองคำ
· รายงานล่าสุดจาก S&P Global Market Intelligence คาดว่าปริมาณการผลิตทองคำทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ภายในปี 2019 หลังจากที่อัตราผลิตขยายตัวได้ตลอดทศวรรตที่ผ่านมา
โดย S&P คาดปริมาณการผลิตทองคำในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านออนซ์ รวมเป็น 109.6 ล้านออนซ์ นับเป็นอัตราขยายตัวที่มากที่สุดในรอบ 3 ปี ปฏิเสธความคิดเห็นที่ว่าปริมาณการผลิตทองคำได้ขึ้นทำระดับสูงสุดไปแล้ว
ขณะที่บรรดาเหมืองทองทั่วโลกต่างมีปริมาณขุดเจาะทองคำที่มากขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับปี 2008 และทาง S&P ก็คาดว่า อัตราการผลิตจะทรงตัวในระดับประวัติการณ์ไว้ได้ 2 ปี และปริมาณการผลิตจะเริ่มชะลอตัวในปี 2022 เนื่องจากปริมาณการขุดเจาะจะเริ่มซบเซาลง โดยอาจเห็นสัญญาณดังกล่าวอย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นปี 2021
· นักวิเคราะห์จาก Kitco กล่าวว่า ภาพทางเทคนิคราคาทองคำระยะสั้นยังมีสัญญาณเป็นขาลง โดยทองคำจะกลับเป็นขาขึ้นได้จำเป็นต้องยืนเหนือ 1,300เหรียญ แต่หากหลุดต่ำกว่าระดับแนวรับ 1,270 และ 1,260 เหรียญ ก็มีโอกาสกลับลงมาทดสอบแนวรับสำคัญทางเทคนิคที่ 1,250 เหรียญได้ สำหรับวันนี้แนวต้านจะอยู่ที่ 1,282.1 เหรียญ
· นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities กล่าวว่า การฟื้นตัวของตลาดหุ้นและการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยที่จำกัดการลงทุนของทองคำ แต่หากความผันผวนในตลาดการเงินกลับมาอีกครั้ง ในขณะที่ตลาดหุ้นอยู่ต่ำกว่าระดับ All-Time Highs ก็ดูจะมีโอกาสเห็นทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้ ขณะที่สัญญาณจากกลุ่มผู้จัดการการเงินส่วนใหญ่จะยังไม่ช้อนซื้อทองคำจนกว่าจะเห็นสัญญาณเข้าซื้อเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันพอร์ตการลงทุน
ขณะที่ภาพการลงทุนขาขึ้นของทองคำนับจากที่ขึ้นมาจากระดับต่ำสุดในช่วงเดือนพ.ย. ดูจะเปลี่ยนไปเป็นขาลงในเวลานี้ และดูมีโอกาสจะปรับลงต่อในอีกสัปดาห์หน้า
· หัวหน้านักวิเคราะห์การตลาดจาก SIA Wealth Management ระบุว่า แนวโน้มทองคำขณะนี้เป็นขาลง และทางเทคนิคก็มีการ Breakdown ลงมา และดูจะทำให้ภาพขาขึ้นของทองคำในช่วงเริ่มต้นปีนี้เสียหาย ซึ่งตลาดยังมีความผันผวนในทิศทางขาลง ประกอบกับความเสี่ยงด้านการเมืองที่ลดลง และข้อมูลทางเศรษฐกิจดูจะกลับมาเป็นเชิงบวก ทั้งหมดนี้ดูจะเป็นอุปสรรคต่อการปรับขึ้นของทองคำในระยะสั้น จึงน่าจะเห็นการอ่อนตัวมากกว่า
· บรรดานักวิเคราะห์มองว่า ทองคำน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,250 - 1,300 เหรียญ และมองว่าเป็นขาลงมากกว่า โดยต้องจับตาบริเวณ 1,250 เหรียญ ขณะที่แนวต้านแรกจะอยู่ที่ 1,282 เหรียญและต้านถัดไปที่ 1,300 เหรียญ โดยระดับเป้าหมายของทองคำจะอยู่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วัน นั่นคือ 1,250 เหรียญนั่นเอง
Thai
Eng